วันนี้ (12 พ.ค.2563) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบถึงความจำเป็นในการออกร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขยายเวลาการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ในหมวด 2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมวด 3 สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมวด 5 การร้องเรียน หมวด 6 ความรับผิดทางแพ่ง หมวด 7 บทกำหนดโทษ และความในมาตรา 95 และมาตรา 96 ที่เดิมจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 27 พ.ค.2563 ออกไปอีก 1 ปี ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน
น.ส.รัชดากล่าวว่า เนื่องจากหากมีการบังคับใช้ตามกำหนดเวลาเดิม ในขณะที่ทุกภาคส่วนยังไม่พร้อม อาจทำให้เกิดการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายได้โดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้ผู้ที่ทุจริตแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ มากไปกว่านั้น ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ภาคเอกชนไม่ว่าขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เกิดปัญหาสภาพคล่องในการลงทุน เพื่อปรับปรุงกระบวนงาน ระบบสารสนเทศ และการจัดหาหรือจัดอบรมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้มีความพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย การเลื่อนบังคับใช้กฎหมายจึงเอื้อต่อภาคเอกชน ให้มีเวลาได้เตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวาระต่อไป
น.ส.รัชดากล่าวต่อว่า ขณะนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว โดยอยู่ระหว่างการนำเสนอรายชื่อบุคคลต่อคณะรัฐมนตรี และอยู่ในขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เช่น 1.การบริหารจัดการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2.การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 3.การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ 4.สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 5.หน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ 6.การร้องเรียนและโทษปรับทางปกครอง
ขอบคุณภาพ : www.securitysystems.in.th