วันนี้ (19 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีผู้ปกครองของนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เข้าแจ้งความโดยกล่าวหาว่านายนิกร สะอาดรัมย์ อายุ 39 ปี ครูอัตราจ้างโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.โนนขวาง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ล่อลวงลูกสาว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ไปกระทำอนาจารในโรงเรียน และมีพฤติกรรมแชทกับลูกสาวของตัวเอง ในลักษณะชู้สาว จึงนำหลักฐานการสนทนา มามอบให้กับตำรวจ
ล่าสุดตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายนิกร เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง และได้ลาออกจากโรงเรียนเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ปฏิเสธทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
นายนิกร รับสารภาพว่า เหตุเกิดเมื่อเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอม ได้กระ ทำอนาจารลูกศิษย์จริง แต่ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมยอมรับชะตากรรมที่ทำไป และได้ขอโทษเด็กและขอโทษพ่อแม่ของนักเรียน โดยยื่นหนังสือลาออกจากโรงเรียนแล้ว
แม่ช็อก เจอแชตหลุดไม่คิดว่าจะเกิดกับลูกสาว
แม่ของเด็กหญิง เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตัวเองและสามีทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนลูกสาว 2 คน อยู่กับยายที่บ้าน แต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกสาวคนโตได้โทรศัพท์ไปบอกว่า มีเรื่องปรึกษา พร้อมส่งข้อความในแชทที่ครูคุยกับลูกสาวคนเล็ก ในเชิงชู้สาว
รู้สึกช็อก ทำอะไรไม่ถูก เพราะก่อนหน้านี้ เพิ่งคุยกับเพื่อนที่ทำงาน เรื่องครู 5 คน กระทำอนาจารลูกศิษย์ที่ จ.มุกดาหาร ไม่คิดว่า จะมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกสาวของตัวเอง
พอตั้งสติได้ ก็โทรศัพท์มาคุยกับลูกสาวคนเล็ก จนลูกสาว ยอมเปิดปากบอกว่า ถูกครูกระทำอนาจาร จึงตัดสินใจเดินทางกลับมาบ้าน แล้วพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
พ.ต.ต.สุรเดช ประสงใด สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ประสาน เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพมาสอบสวนเด็กร่วมด้วย เพราะเรื่องร้ายแรงสำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ พร้อมค้านประกันตัว เนื่องจากกลัวจะไปข่มขู่ผู้เสียหาย หรือ ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ฝากขัง-ค้านประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิกร ที่ถูกถูกคุมตัวในห้องขัง มีอาการเครียด และขอใช้สิทธิ์ไม่ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ โดยอ้างว่า อับอาย และเกรงถูกญาติของผู้เสียหายหรือชาวบ้านโกรธแค้นรุมประชาทัณฑ์ ทั้งนี้พนักงานสอบ สวน จะทำเรื่องส่งฝากขังผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนส์กับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ของโรค COVID-19 ซึ่งหลังจากทำเรื่องฝากขังเสร็จ ก็จะส่งตัวไปยังเรือนจำ
ด้าน พ.ต.อ.พงศธร โสกุล ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรบ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวไม่ได้ยุ่งยากหรือซับซ้อนอะไร ประกอบกับตัวผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพ กระทำอนาจารเด็กจริง ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้เสียหาย จากนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและเร่งรวบ รวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ส่วนที่ตัวผู้ต้องหา ไม่ขอไปทำแผนนั้น ก็เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เบื้องต้นก็ได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ “กระทำอนาจารบุคคลอายุไม่เกิน 13 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเด็กนั้นเป็นลูกศิษย์ ซึ่งอยู่ในความดูแลและข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปก ครอง และผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร