วันนี้ (25 พ.ค.2563) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงหลังประชุมสภากลาโหม กรณีขบวนการแอบอ้างเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวผู้ประกอบการโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวคนไทยกลับจากต่างประเทศ (State Quarantine) โดยระบุว่า รัฐบาลและกองทัพไม่มีนโยบายเรียกเก็บผลประโยชน์จากประชาชน
หลังคุยกับสมาคมธุรกิจโรงแรม ภาคตะวันออกแล้ว พบว่า มีนายหน้ามาติดต่อเจรจาขอหักหัวคิวจริง ขณะนี้ได้รายชื่อทั้งหมดแล้ว
พล.ท.คงชีพ ระบุว่า หากใครมีเบาะแสเพิ่มเติมสามารถแจ้งเข้ามาได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานส่งต่อข้อมูลและขยายผลเชื่อมโยงไปถึงขบวนการว่ามีใครบ้าง พร้อมยืนยันว่า ไม่มีคนในกองทัพเกี่ยวข้องด้วย แต่หากมีใครพบข้อมูลว่ามีคนของกองทัพหรือกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวข้องขอให้ส่งข้อมูลมาได้ พร้อมดำเนินการทางวินัยและทางอาญาต่อไป
ต้องดูความเชื่อมโยงว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหายกับรัฐและประชาชน การหักหัวคิวทำให้การดูแลอาหารถูกตัดลดไปด้วย ขณะนี้กำลังเร่งติดตามตัว
ทั้งนี้ พล.ท.คงชีพ ย้ำว่า การดำเนินการสถานที่กักตัวคนไทยนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการเอกชนได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะจุดประสงค์หลัก คือการนำคนไทยที่ตกค้างในต่างประเทศได้กลับบ้านเพื่อมาดูแล ซึ่งคนไทยเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่ผู้ป่วย แต่ต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง ซึ่งรัฐบาลและกองทัพได้ดูแลทุกคนเหมือนครอบครัว
"อนุทิน" แนะผู้ประกอบการนำหลักฐานร้องเรียน
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หากเป็นเรื่องจริง ขอให้ผู้ประกอบการโรงแรมนำหลักฐานอย่างภาพจากกล้องวงจรปิดมาร้องเรียนได้ที่กระทรวงสาธารณสุขตลอดเวลา
นายอนุทิน ระบุอีกว่า เป็นไปไม่ได้ที่คนจากกระทรวงสาธารณสุขจะเกี่ยวข้องกับขบวนการหักหัวคิวดังกล่าว แต่หากมีหลักฐานยืนยันได้ว่าทำผิดจริง ก็จะดำเนินการเอาผิดให้ถึงที่สุดเช่นกัน
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ได้เปิดเผยข้อมูลผู้เข้ากักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐในการแถลงสถานการณ์ COVID-19 ประจำวันนี้ โดยล่าสด ยอดผู้เข้ากักตัวสะสมอยู่ที่ 25,385 คน กลับบ้านแล้ว 16,101 คน และผู้เข้ากักตัวปัจจุบันอยู่ที่ 9,284 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาล 105 คน กลับบ้านแล้ว 81 คน และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 24 คน
หากผู้ประกอบการพบใครมาขู่กรรโชกเรียกทรัพย์เพื่อจะเป็นโรงแรมที่เป็น State Quarantine สามารถแจ้งความได้ทันที