วันนี้ (28 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว กันจับกุมตัวชาวกัมพูชาจำนวน 54 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 33 คน ผู้หญิง 21 คน ขณะกำลังหลบหนีข้ามแดนเข้ามาประเทศไทย
จากการสอบสวนชาวกัมพูชาระบุว่า ต้องการเดินทางเข้ามาหางานทำในประเทศไทย เพราะฝั่งกัมพูชาไม่มีงานให้ทำ เนื่องจากมีการปิดชายแดนเพราะสถานการณ์ COVID-19 จึงเลือกวิธีลักลอบข้ามแดนเข้ามาดังกล่าว โดยมีนายหน้านำพามาส่งชายแดน เสียค่านายหน้าประมาณ 3,000 บาท
สำหรับบริเวณจุดที่ชาวกัมพูชาจำนวนมากลักลอบเข้าไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ อยู่ที่บริเวณคลองส่งน้ำท้ายหมู่บ้านปางลาง หมู่ที่ 2 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
คุมเข้มปิดด่านชายแดน
ขณะเดียวกัน พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้ พ.อ.(พิเศษ) เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อตรวจการเตรียมความพร้อมรับมือชาวกัมพูชา ประกาศปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ระหว่างวันที่ 1-7 มิ.ย.นี้ ที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ติดกับด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
การเตรียมความพร้อมครั้งนี้ เนื่องจากมีชาวกัมพูชาที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดชายแดนในเมืองปอยเปต โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าและกรรมกร ที่เข้ามาค้าขายและทำงานรับจ้างในตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว จะมีการรวมตัวชุมนุมประท้วงปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ที่ด่านพรมแดนปอยเปต ฝั่งประเทศกัมพูชา เพื่อไม่ให้รถบรรทุกสินค้าจากไทยเข้าไปส่งสินค้าในฝั่งกัมพูชา ตอบโต้ประเทศไทยที่ไม่ยอมเปิดด่านพรมแดนคลองลึกให้พ่อค้าแม่ค้า และแรงงานชาวกัมพูชา เข้ามาประกอบอาชีพค้าขายและทำมาหากินในตลาดโรงเกลือด้วย ทำให้ต้องมีการปิดตายช่องทางธรรมชาติ ตามแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา