วันนี้ (29 พ.ค.2563) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ แถลงข่าวปิดคดีขบวนการรับจ้างตั้งครรภ์ หรืออุ้มบุญข้ามชาติ ที่มีผู้ต้องหาสัญชาติจีนเข้ามาเป็นผู้จ้างคนไทยให้จ้างหญิงไทยตั้งครรภ์ ซึ่งตำรวจได้เข้าจับเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมทั้งออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้รวม 10 คน
คดีนี้ตำรวจได้สอบสวนพยานบุคคล 70 คน ทั้งกลุ่มแพทย์ กลุ่มผู้รับจ้างอุ้มบุญ จากนั้นได้ขยายผลออกหมายจับได้อีก 13 คน รวมผู้ต้องหา 23 คน และขณะนี้จับได้ทั้งหมดแล้วเหลือเพียง 1 คน ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ในจีน
สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ ตำรวจแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มนายหน้าชาวจีน 5 คน กลุ่มนายหน้าจัดหาแม่อุ้มบุญ 7 คน กลุ่มคนขับรถและให้ความสะดวก 3 คน กลุ่มแม่บ้านดูแลแม่อุ้มบุญและดูแลเด็กหลังคลอด 2 คน และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 6 คน โดยแต่ละคนถูกแจ้งข้อหาแตกต่างกันไป ทั้งสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และข้อหาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ พ.ศ.2558
พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการ ปคม. เปิดเผยว่า แม้คดีนี้จะเกี่ยวข้องกับหลายประเทศและผู้ต้องหาพยายามหลีกเลี่ยงกฎหมายโดยการไปผสมไข่และคลอดที่ต่างประเทศ แต่ความผิดดังกล่าวเข้าข่ายความผิดองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งมีบทลงโทษที่หนัก ขณะที่การสืบสวนปลายทางของเด็กที่เกิดด้วยวิธีนี้พบว่ามีการนำไปเลี้ยง 4 คน ส่วนการนำเด็กไปกระทำอย่างอื่นยังไม่พบข้อมูล
คดีนี้ยังตรวจพบคลินิกที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ในไทยรวม 5 แห่ง ขณะนี้ยังไม่ดำเนินคดีได้ต้องรอผลคำพิพากษาทางคดีก่อน การตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบมีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมกว่า 1,000 ล้านบาท