วันนี้ (30 มิ.ย.2563) นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยภายหลังการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องในการปล่อยลูกช้างคืนป่า ที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าให้เคลื่อนย้ายลูกช้างจากคอกเตรียมปล่อยบริเวณจุดห้วยน้ำขุ่นที่ลูกช้างอยู่ในขณะนี้ มาไว้ที่คอกเตรียมปล่อยหอต้นผึ้ง พร้อมกับขยายคอกใหม่ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 1 ไร่ โดยกำหนดสร้างคอกใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน จากนั้นให้ย้ายลูกช้างมาคอกใหม่ทันที เนื่องจากมีแหล่งน้ำและเป็นถิ่นหากินของช้างฝูงแม่ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้ช้างฝูงแม่มาหาลูกช้างมากขึ้น
นอกจากนี้ยังให้นายสัตวแพทย์ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และนายสัตวแพทย์จากส่วนกลาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทำการฟื้นฟูลูกช้างให้กลับมาอ้วนท้วนสมบูรณ์โดยเร็ว หลังพบว่าลูกช้างซูบผอมลง แต่ยังแข็งแรงและร่าเริง พร้อมให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งจัดทำโครงการหาแม่รับและหากได้แม่รับมาแล้วให้ใช้คอกใหม่เป็นคอกอนุบาลเลี้ยงดูไปด้วย
ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
สำหรับแม่รับ อาจใช้แม่รับจากช้างป่าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ซึ่งขณะนี้มีลูกอ่อนและเชื่อง ส่วนการดูแลเจ้าหน้าที่ฝึกลูกช้างให้ช่วยตัวเอง เพื่อให้อยู่ได้ตามธรรมชาติให้มากที่สุด โดยได้จัดชุดเฝ้าระวังภัยจากสัตว์ผู้ล่า รวมทั้งช้างโทนที่อาจแตกฝูงออกมาหากินด้วย
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคืนที่ 11 ของการปล่อยลูกช้างไว้ในคอกเตรียมปล่อยในป่า พบว่าลูกช้างส่งเสียงร้อง 161 ครั้ง หลับพักผ่อน 2 รอบ กินนม 5 รอบ จำนวน 11 ลิตร กินข้าวต้ม เสริมด้วยแคลเซียมและวิตามิน 2 รอบ จำนวน 2 ลิตร ตอนกลางวันมีกิจกรรมผ่อนคลาย เดินเล่น 1 ชั่วโมง 52 นาที ส่วนพฤติกรรมการตอบโต้ระหว่างลูกช้างกับช้างโขลงแม่ พบว่าลูกช้างร้องฝ่ายเดียว ไม่มีเสียงตอบจากช้างแม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สัญญาณดี! ลูกช้างป่า-โขลงช้างส่งเสียงหากัน
ลุ้นภารกิจปล่อย "ลูกช้าง" คืนแม่ช้างป่าห้วยขาแข้ง
เร่งช่วย "ลูกช้างป่า" ห้วยขาแข้ง พลัดหลงแม่