วานนี้ (6 ก.ค.2563) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยขณะนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศต่อเนื่องมา 42 วันแล้ว แต่การที่ประเทศไทยไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ มาจากความร่วมมือของคนไทยทุกคนร่วมมือกันในการป้องกันตัวเอง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ
นพ.โสภณ กล่าวว่า การที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยปราศจากเชื้อ ยังคงมีเชื้อโรคและอาจเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนได้ หากคนไทยประมาท การ์ดตก อาจเกิดการระบาดซ้ำเช่นเดียวกับบทเรียนในหลายประเทศ ที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากสถานที่ที่มีคนรวมอยู่จำนวนมาก เช่น ตลาด สถานบันเทิง
วัด-ตลาด สถานที่แออัดยังเสี่ยง
ในวันหยุดยาวเทศกาลวันอาสาฬหบูชา เข้าพรรษา ประชาชนจำนวนมาก เดินทางออกต่างจังหวัดเพื่อกลับภูมิลำเนา ทำบุญ ท่องเที่ยว ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก เกิดความแออัด นับเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอาจเกิดการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆได้
ดังนั้นขอให้ทุกคนคงมาตรการป้องกันตัวเอง การใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้านและตลอดเวลาที่เข้าไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันการรับเชื้อได้ และขอให้ลงทะเบียน เข้า-ออก พร้อมประเมินกิจการสถานที่ ที่เข้าใช้บริการในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เพื่อประโยชน์หากมีผู้ติดเชื้อ กรมควบคุมโรค จะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามผู้สัมผัสเพื่อนำเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคต่อไป และที่สำคัญคือเมื่อป่วยต้องอยู่บ้านพักรักษาตัวไม่ไปในสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
"หมอแก้ว" ชี้คนไทยเริ่มไม่กลัว COVID-19
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอแก้ว ผลิพัฒน์ ในรูปแบบของการถาม-ตอบดังนี้ โดยระบุว่าคนไทยรู้ว่าเรามีโอกาสที่ COVID-19 จะกลับมาระบาดอีก
แต่ถ้าถามถามคนไทยกลัวมั้ย ถ้าจะกลับมาระบาดอีก ระบุว่า รู้สึกว่าคนไทยจะไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ สังเกตได้จากการปฏิบัติตัว
เมื่อถามว่า เมืองไทยพร้อมแล้วยังถ้า COVID-19 จะกลับมาระบาดอีก พร้อมแล้วครับ โดยดูได้จากจากการที่คนไทยทุกคนช่วยกันทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงขึ้น ร้านค้าไม่คัดกรองร้านค้าให้ความสำคัญกับเงินมากกว่าการป้องกัน ร้านค้าไม่ใส่ใจที่จะไม่ยอมให้คนไม่ใส่หน้ากากเข้าร้าน
ร้านค้าไม่ยอมบอกให้ลูกค้าใส่หน้ากาก ลูกค้าก็มีความสุขที่จะไม่ต้องใส่หน้ากาก
โรคจะกลับมาอีกหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับคนไทยและผมก็รู้สึกว่า คนไทยไม่กลัวโควิดแล้ว และอยากให้มันกลับมาอีก ทั้งยังเชิญชวนให้มันกลับมาระบาดอีกด้วย
สำหรับผม ผมคิดว่าเหล่านี้ล้วนเป็นความคิดและการกระทำที่น่ากลัวมากอยากให้คนไทยเที่ยว และกลับมาช่วยกันดูแลธุรกิจของทุกคนให้สามารถพอเดินไปได้อย่างมีสติ
ลักลอบเข้าไทย 1 เดือน 3,000 คนห่วงเชื้อนำเข้า
สอดคล้องกับข้อมูลของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่แถลงเมื่อวานนี้ ระบุว่า ในช่วงวันหยุดยาว 4-7 ก.ค.นี้ พบว่ามีคนแออัดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร บางพื้นที่ไม่มีการเว้นระยะห่าง ดังนั้นยังขอความร่วมมือ 3 ส่วนคือผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ และทีมตรวจสอบของภาครัฐต้องคงความเข้มข้นเพื่อป้องกัน COVID-19 และเทียวแบบชีวิตวิถีใหม่ แม้ไทยจะไม่คนติดเชื้อภายในประเทศ แต่ยังพบว่ามีความเสี่ยงอื่นๆ
กรณีการลักลอบข้ามแดนเข้ามาในไทยราว 3, 000 คน และคนกลุ่มนี้อาจเป็นเหตุนำเชื้อเข้ามาได้ ดังนั้นเป็นวัคซีนป้องกันตัวเองคือต้องใส่หน้าหากอนามัยและมาตรการ 5 ข้อที่ประชาชนประชาชขนต้อองปฏิบัติเสมอถ้าการ์ดตกเสี่ยง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบค.เปิดขั้นตอน Medical and Wellness Program
ศบค.ชี้จัด จนท. 2 ทีมประกบ "ผบ.ทบ.สหรัฐฯ" ห้ามออกนอกเส้นทาง