การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ จากการสนับสนุนโดย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จัดแข่งขันรายการ "สิงห์ พัทยา โอเพ่น 2020" ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคม 2563 ณ สนามบูรพา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท จ.ชลบุรี ระยะ 7,125 หลา พาร์ 70 ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 450,000 บาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 7 คะแนน
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมาเป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน โดย “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ โปรวัย 36 ปีจากหัวหิน ยังคงฟอร์มดี โดย 9 หลุมแรก เก็บ 3 เบอร์ดี้รวดได้ที่หลุม 6, 7, 8 ก่อนที่ 9 หลุมหลังจะมาเก็บเบอร์ดี้เพิ่มได้ที่หลุุม 10 และ 11 แต่มาพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 15 และแก้ตัวทำโฮลอินวันที่หลุม 17 พาร์ 3 และเก็บเบอร์ดี้ปิดท้ายที่หลุม 18 พาร์ 5 โดยจบรอบทำสกอร์เพิ่ม 7 อันเดอร์พาร์ 63 สกอร์รวม 4 วัน คว้าแชมป์ไปครองที่ 20 อันเดอร์พาร์ 260 ได้รับเงินรางวัล 4.5 แสนบาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 7 คะแนน ส่วน ธนภัทร พิชัยกุล (64) และ กัญจน์ เจริญกุล (63) ได้ที่ 2 ร่วมกัน หลังทำสกอร์เท่ากันที่ 15 อันเดอร์พาร์ 265
โดยพรหม ที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยที่ 4 หลังเคยคว้าได้ในปี 2006, 2011, 2012 กล่าวว่า “พรหม ชอบสนามนี้ครับเลยชนะได้ 4 ครั้งแล้ว ที่นี่เช็ตอัพสนามค่อนข้างตรงกับที่พรหมถนัด เพราะว่ากรีนเล็ก และตัวพรหมเองเป็นคนที่ตีเหล็กค่อนข้างดีเพราะฉะนั้นถ้าตีออนแล้วมันจะสร้างโอกาสให้ตัวเองได้เยอะ ที่นี่เป็นสนามเขาคล้ายๆหัวหิน (สนามฝึกซ้อมของพรหม) เพียงแต่พันธุ์หญ้าไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ส่วนตัวพรหมเองก็ค่อนข้างถนัดกับการอ่านไลน์บนหญ้าแบบนี้ แล้วทำให้เล่นได้ดีที่นี่ โดยวันนี้ 5 หลุมแรก ทำโอกาสตัวเองได้พัตต์เบอร์ดี้แต่ทำไม่ได้ พอหลุม 6 เบอร์ดี้ได้ และก็มาทำที่หลุม 7 หลุม 8 ต่อเนื่อง เกมส์มันก็เริ่มไหลรื่น ได้เห็นลีดเดอร์บอร์ดเห็นน้องๆทำสกอร์ไล่มา พอหลุม 10-11 ทำเบอร์ดี้ได้เราก็คิดว่าน่าจะทำได้ เพราะว่าเราค่อนข้างคุ้นเคยกับสนามที่นี่ ก็พยายามสร้างโอกาสให้ตัวเอง เล่นผิดพลาดให้น้อย”
พรหม กล่าวถึงการทำโฮลอินวันที่หลุม 17 พาร์ 3 ด้วยว่า “วันนี้ใช้เหล็ก 7 ซึ่งระยะค่อนข้างใกล้เคียง เลยทำให้เราปล่อยเหล็กได้ง่ายขึ้น ปล่อยไปตามฟิลลิ่งคล้ายๆเมื่อวานเลย ตีไปค่อนข้างดี โดนลูกเต็มๆ พอเห็นลูกตกคิดว่ายังไงก็ใกล้แน่นอน ไม่คิดว่าจะลงไปเลย ก็เลยทำให้เล่นหลุมสุดท้ายได้ง่ายขึ้น”
“สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณสนามกอล์ฟบูรพาที่จัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ทำสนามให้ท้าทายในทุกๆปี ถึงแม้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพรหมอาจไม่มีโอกาสมาลงเล่น ก็รู้สึกดีใจที่ทำได้ครั้งนี้อีกครั้งนึง ขอบคุณสิงห์คอร์เปอเรชั่น กกท. และสปอนเซอร์ที่ร่วมให้การสนับสนุน ขอบคุณที่ให้โอกาสนักกอล์ฟไทยและนักกอล์ฟรุ่นใหม่ๆ ได้มีโอกาสพัฒนาฝีมือ ก็ดีใจครับที่ได้แชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 4 ขอบคุณครับ”
ทางด้าน ธนภัทร พิชัยกุล รอบนี้ทำสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 64 จาก 1 อีเกิ้ล 5 เบอร์ดี้ เสีย 1 โบกี้ สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 265 ได้ที่ 2 ร่วมกับ กัญจน์ เจริญกุล ที่รอบนี้ทำเพิ่ม 7 อันเดอร์พาร์ 63 จาก 7 เบอร์ดี้ ไม่เสียโบกี้ ได้รับเงินรางวัลคนละ 225,000 บาท และคะแนนสะสมอันดับโลก 3.5 คะแนน ส่วน แดนไท บุญมา (66), อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ (67), ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ (67), ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม (65) และ รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์ (68) ซึ่งเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น ทำสกอร์รวมเท่ากันที่ 13 อันเดอร์พาร์ 267 ได้ที่ 4 ร่วม โดยนักกอล์ฟอาชีพได้รับเงินรางวัลคนละ 92,025 บาท ส่วน รัญชนพงศ์ คว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นดีเด่นไปครอง และได้รับคะแนนสะสมอันดับโลกคนละ 1.5 คะแนน
สำหรับผลงานนักกอล์ฟที่น่าสนใจ รฐนน วรรณศรีจันทร์ (65) ทำสกอร์ 12 อันเดอร์พาร์ 268 ได้ที่ 9 สดมภ์ แก้วกาญจนา (64) ทำสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ 270 ได้ที่ 13 ร่วม นำโชค ตันติโภคากุล (66) ภาณุพล พิทยารัฐ (68) และ ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต (72) ทำสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 271 ได้ที่ 17 ร่วม ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ (68) ทำสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 272 ได้ที่ 20 ร่วม กษิดิศ เล็บครุฑ (69) ทำสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 274 ได้ที่ 30 ร่วม สาริศ สุวรรณรัตน์ (67) ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 276 ได้ที่ 42 ร่วม ชัพชัย นิราช (71) และ โคสุเก ฮามาโมโต้ (71) ทำสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 278 ได้ที่ 51 ร่วม
ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์รายการต่อไป ได้แก่รายการ "สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ ครั้งที่ 21” ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท โดยแข่งขันระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2563 ที่สนามกอล์ฟสันติบุรี คันทรีคลับ จ.เชียงราย