วันนี้ (27 ส.ค.2563) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมว.สาธารณสุข แสดงความเสียใจกรณีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล อยู่ระหว่างกักตัวในสถานกักกันของรัฐ พลัดตกสถานที่พักเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์สาเหตุเบื้องต้นได้ส่งทีมสุขภาพจิตเข้าไปดูแลเยียวยาสภาพจิตใจของทั้งผู้ที่อยู่ระหว่างกักตัวในสถานที่เดียวกัน และครอบครัวผู้เสียชีวิต
รายนี้จากที่ประเมินบนเครื่องบินไม่พบปัญหาอะไร ที่ผ่านมากรมสุขภาพจิตมีระบบคัดกรองทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ที่ถูกกักตัวตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน โดยจะประเมินความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะเสี่ยงซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย เพื่อวางแผนดูแลให้เกิดความเหมาะสม หากพบมีความเสี่ยงจะเข้าดูแลทันทีเมื่อถึงไทย
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ที่ไม่มีภาวะเสี่ยงจะเข้าไปประเมินในช่วงวันที่ 2 และ 3 เนื่องจากวันแรกจะปล่อยให้ปฏิบัติภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งจะให้คำแนะนำวิธีจัดการความเครียด ลดความกังวลและมีเอกสารคำแนะว่าการทำกิจกรรมในแต่ละวัน
ตลอดเวลาที่กักตัวเจ้าหน้าที่จะพูดคุยให้คำปรึกษาผ่านทางไลน์ คิวอาร์โค้ด โทรศัพท์ หากพบว่าใครมีปัญหาสุขภาพจิตก็จะเข้าไปดูแล หรือ หากมีอาการรุนแรงก็จะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลที่จับคู่ไว้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่อยู่ในสถานที่แยกกักนั้นหากรู้สึกเครียดหรือกังวลก็สามารถโทรปรึกษาทีมสุขภาพจิตที่ประจำอยู่ หรือ โทร 1323 ได้
ที่ผ่านมาพบคนที่มีปัญหาสุขภาพกายต้องดูแลกันค่อนข้างมาก หรือที่เกี่ยวกับโรคทางจิตเวชก็จะมีบางคนที่มีอาการเสพติดเหล้า ซึ่งในสถานที่แยกกักนั้นเราไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้คนเหล่านี้มีปัญหาการลงแดงก็ต้องเข้าไปดูแลกันเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ยอมรับว่าประชาชนส่วนหนึ่งที่กลับเข้ามาไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรในช่วงที่คัดกรองตั้งแต่ที่อยู่บนสนามบิน แต่ก็ไม่ได้รับรายงานว่ามีการโกหกหรือให้ข้อมูลเท็จอะไร ดังนั้นหากญาติ ๆ เองที่รู้ว่าจะมีญาติกลับจากต่างประเทศแล้ว มีสภาวะปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิตอะไรอยู่สามารถแจ้งเข้ามาเพื่อให้ทราบ และดูแลอย่างเหมาะสมอีกทางหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งหาสาเหตุชาย 39 ปี ตกโรงแรมสถานกักกัน COVID-19 เสียชีวิต