วันนี้ (21 ก.ย.2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในเวลา 14.00 น. คาดว่า จะมีการหยิบยกประเด็นการสอบสวนกรณีทุจริตบัตรทองที่ส่งผลให้ สปสช.ยกเลิกสัญญาการให้บริการสาธารณสุขของคลินิกชุมชนอบอุ่น และโรงพยาบาลที่กระทำผิดสัญญาในการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ 64 แห่ง
สำหรับคลินิกที่พบทุจริต 64 แห่ง แบ่งเป็นคลินิกเวชกรรม 53 แห่ง คลินิกทันตกรรม 3 แห่ง และโรงพยาบาลอีก10 แห่ง โดยก่อนหน้านั้นมีคลินิกถูกยกเลิกไปแล้วส่วนหนึ่ง รวมทั้งหมดเป็น 84 แห่ง นอกจากนี้ สปสช.ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบในคลินิก 107 แห่งว่ามีความผิด หรือจำเป็นต้องปิดหน่วยบริการหรือไม่
ขณะที่ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ย้ำว่า สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทองของประชาชนกลุ่มที่ีสถานบริการสาธารณถูกยกเลิกสัญญา 800,000 คน ยังคงอยู่ และการยกเลิกสัญญาเกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ กทม.เท่านั้น ต่างจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ
โดยในช่วงที่ สปสช.กำลังดำเนินการจัดหาหน่วยบริการแห่งใหม่แทนหน่วยบริการเดิม เพื่อดูแลประชาชนจึงมีแนวทางให้กับประชาชนในการเข้ารับบริการสาธารณสุข กรณีเจ็บป่วยทั่วไป หรือมีแผนการรักษาพยาบาลกับหน่วยบริการทั้ง 64 แห่ง สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลต่อเนื่องได้ที่หน่วยบริการภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัวซึ่ง สปสช.ได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยบริการทุกแห่งว่า ให้บริการสาธารณสุข และขอรับค่าใช้จ่ายเป็นกรณีผู้ป่วยสิทธิว่างมาที่ สปสช.โดยไม่ต้องเก็บเงินจากผู้ป่วย
สำหรับกรณีผู้ป่วยที่มีหนังสือส่งตัวเดิม เพื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลรับส่งต่อสามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลรับส่งต่อเดิมได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว แต่หากโรงพยาบาลรับส่งต่อเดิมนั้นถูกยกเลิกสัญญาด้วย ก็สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้านได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินประชาชนสามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้ที่หน่วยบริการภาครัฐและเอกชน ที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือหากเป็นภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติเข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP ก็สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้านได้
ส่วนผู้ป่วยที่ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ถูกประกาศยกเลิกสัญญาแต่ยังไม่สิ้นสุดแผนการรักษา ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะใช้สิทธินอนรักษาต่อเนื่องได้จนอาการดีขึ้น แพทย์พิจารณาแล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยโรงพยาบาลยังเบิกค่าใช้จ่ายกรณีผู้ป่วยกลุ่มนี้มายัง สปสช.ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ส่วนผู้ป่วยที่มีนัดผ่าตัดหรือแอดมิตเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.2563 กับโรงพยาบาลที่ถูกบอกยกเลิกจำนวน 7 แห่ง ยังสามารถแจ้งชื่อ วันนัดผ่าตัด และเบอร์โทรศัพท์ มาที่สายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประสานหน่วยบริการให้ได้รับการรักษา และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หรือหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามทางสายด่วน 1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำรวจคลินิก กทม.เบิกงบ “บัตรทอง” ผิดปกติ เสี่ยงยกเลิกสัญญากระทบคนกรุง
"8 แสนคน" กระทบปมเลิกสัญญาคลินิก-รพ.โกงบัตรทอง
THE EXIT : สวมรอยเบิกเงิน "บัตรทอง" (ตอน 1)
THE EXIT : เปิดปากคำ "พยาน" คลินิกทุจริตงบฯ บัตรทอง (ตอน 2)