วันนี้ (13 พ.ย.2453) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในวิหารพระภาวนาโกศลเถร (หลวงปู่เอี่ยม สุวณณสโร) วัดหนังราชวรวิหาร ย่านวุฒากาศ เขตจอมทอง มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
โดยเฉพาะในช่วงเวลา 23.00 น. วันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากคนร้ายปีนหน้าต่าง งัดกลอนเข้าไปภายใน เพื่อลักเงินบริจาค โดยใช้เครื่องมืองัดเจาะเป็นช่องจากด้านบนให้กว้างพอที่จะนำมือล้วงเข้าไปเอาเงินสด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 หมื่นบาท
จากนั้นงัดตู้ไม้ขนาดเล็กที่อยู่ติดกัน และขโมยเงินบริจาคไปด้วย จากนั้นนำชะแลงงัดตู้เซฟใบใหญ่ที่อยู่อีกด้าน แต่ไม่สามารถงัดได้ ก่อนจะหนีกลับออกไปยังหน้าต่างที่งัดเข้ามา โดยในจุดนี้คนร้ายใช้เวลาอยู่เกือบ 1 ชั่วโมง
จากนั้นในช่วงเวลา 01.21 น. คนร้ายได้ไปจุดที่สอง ห่างไปทางด้านข้างวิหาร 15 เมตร ซึ่งเป็นศาลาบูชาวัตถุมงคลของวัด ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว คนร้ายได้เข้ามาด้านในด้วยการทุบกระจกประตูแผ่นล่าง ก่อนจะมุดเข้าลักทรัพย์วัตถุมงคลในตู้โชว์หายไปจำนวนมาก
เช่น เหรียญหลวงปู่เอี่ยม พ.ศ.2515 เหรียญ 3 เจ้าอาวาส และรูปหล่อหลวงปู่เอี่ยม จำนวนกว่า 700 เหรียญ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ก่อนจะกลับออกไปเกือบเวลา 02.00 น. และย้อนกลับมาอีกครั้งในเวลา 02.08 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดที่สอง สังเกตเห็นว่า คนร้ายได้เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ จึงเชื่อว่าหลังจากที่คนร้ายออกมาจากในวิหารแล้ว ได้ไปเปลี่ยนชุดก่อนที่จะมาก่อเหตุในจุดที่สอง
นอกจากนี้กล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางหน้าวัด ได้เห็นคนร้ายใช้เส้นมาผ่านมาทางวัดนางนอง ก่อนที่จะหายไป เนื่องจากในจุดนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้
พระมหาชาคริต ภัททภูริ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนังราชวรวิหาร กล่าวว่า จากที่สังเกตพฤติกรรมคนร้าย จากกล้องวงจรปิด เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเคยเข้ามาดูลาดเลาไว้ก่อน เพราะในจุดแรกที่ปีนหน้าต่างเข้ามาได้ผลักกล้องวงจรปิด 1 ตัว ไปทิศทางอื่น
และใช้เวลาอยู่ในจุดนี้นานนับชั่วโมงด้วยความใจเย็น และเตรียมพร้อมทั้งการเปลี่ยนชุด และใส่ถุงมือเพื่ออำพรางลายนิ้วมือ
พระมหาชาคริตกล่าวต่อว่า ปีที่แล้วก็เคยเกิดเหตุการณ์ คนร้ายเข้ามาลักเงินในตู้บริจาค แต่ก็สามารถจับตัวได้ แต่ไม่เคยมีใครเข้าไปขโมยวัตถุมงคล เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจภาพวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอย เส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ เนื่องจากรู้จักพื้นที่และรู้มุมกล้องวงจรปิด รวมถึงยังมีการเตรียมอุปกรณ์สำหรับงัดตู้เซฟ และค้อนสำหรับทุบกระจก นอกจากนี้ยังพบว่า คนร้ายมีการเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเพื่อใช้ก่อเหตุ
เบื้องต้นให้ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติกลุ่มคนต้องสงสัยที่มีประวัติก่อเหตุในพื้นที่ โดยคาดว่า จะสามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในเร็วนี้