วันนี้ (16 พ.ย.2563) นายวันชัย สอนศิริ เลขานุการ คณะกรรมการประสานวุฒิสภา หรือวิปวุฒิฯ กล่าวถึงท่าทีของ ส.ว.ในการโหวตร่างแก้รัฐธรรมนูญ ในวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ ว่า เรื่องนี้วิปวุฒิฯ ไม่ต้องมีการหารือกันแล้ว เพราะส.ว.แต่ละคนมีเอกสิทธิ์ในการโหวต
จากตรวจสอบขณะนี้ เชื่อว่าเสียงส.ว มีเกิน 84 คนไปมากแล้ว ในการที่จะโหวตผ่าน 2 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร.ของฝ่ายค้านและรัฐบาล ขณะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ แนวโน้มไม่ผ่าน เพราะเท่าที่คุย มีประเด็นข้อเท็จจริงและ กฎหมายบางประเด็นที่ สว.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
ถึงแม้จะร่างของไอลอว์จะไม่ผ่าน แต่คาดว่า จะมีการนำบางประเด็นที่เป็นส่วนที่ดี มาแปรญัตติ หรือเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการได้ ไม่เสียหาย และไม่น่าเป็นปัญหาอย่างไร
สอดคล้องกับความเห็นของรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ที่มองว่าทางออกหนึ่ง หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ไม่ผ่าน และมีการให้ความเห็นชอบตั้งส.ส.ร.ใน 2 ร่างของฝ่ายค้านและรัฐบาล ทาง ส.ส.ร.ที่มีหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็สามารถ หยิบยกบางประเด็น ของร่างฯไอลอว์มาใช้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
“ทางวิปรัฐบาลจะมีการหารือเกี่ยวกับท่าทีเรื่องนี้ ในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น. ซึ่งเบื้องต้น จะขอฟังการชี้แจงของตัวแทนจากไอลอว์ ในการประชุมร่วมรัฐสภาก่อน เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่มีการหยิบยกร่างฯของไอลอว์ มาพิจารณาหรือซักถาม ที่มา ที่ไป ในการเสนอแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้” รองประธานวิปรัฐบาล กล่าว
ขณะที่ท่าทีของฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เห็นว่าควรรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ไปก่อน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การเมืองนอกสภา
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า หากพิจารณาเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์แล้ว ไม่ถึงขั้นที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมร่วมรัฐสภาก็ควรรับหลักการไปก่อน
แล้วนำเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ไปปรับแก้ไข ในชั้นคณะกรรมาธิการ ที่จะพิจารณาในวาระ2 ซึ่งจะมีผลช่วยให้สถานการณ์ทางการเมืองภายนอกสภา ช่วยคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่ง
ด้าน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุ ร่างของไอลอว์เป็นการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีประชาชนเกิน 100,000 คนร่วมลงชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นจึงควรจะรับฟังเสียงของประชาชนไปพิจารณา
“หากร่างของไอลอว์ตกไป เหมือนรัฐบาลจงใจให้เกิดการราดน้ำมันเข้ากองไฟ ไม่ได้ถอนฟืนออกจากกองไฟ ไม่ฟังข้อเรียกร้องของประชาชน และนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่พัฒนามาเป็นกลุ่มราษฎรแต่อย่างใด” นายธีรัจชัยกล่าว
