วันนี้ (2 ธ.ค.2563) พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินด่วนลงตรวจพื้นที่น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช หลังเมื่อช่วงเช้า ได้บินสำรวจพร้อมรับฟังสถานการณ์น้ำ พร้อมลงช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเขตพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายัง ศูนย์อพยพชั่วคราว โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นำอาหารเครื่องดื่มสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นเบื้องต้น มาแจกจ่ายให้กับผู้อพยพ ที่เดินทางมาอาศัยพักพิงชั่วคราว ประมาณ 60 ครัวเรือน จำนวน 230 คน
โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดอาคารเรียนอาคารที่ 1 และ 2 สำหรับผู้อพยพได้เข้าพักพิงและยังคงมีสำรองไว้อีก 2 อาคาร ซึ่งขณะนี้มีผู้อพยพแจ้งขอเข้าพักยังศูนย์มากถึง 167 ครัวเรือน จำนวน 687 คน
สำหรับในเขตเทศบาลยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง การให้ความช่วยเหลือมีความยากลำบาก เนื่องจากน้ำมีปริมาณที่สูงขึ้น และยังคงต้องตั้งรับน้ำที่ไหลมาจาก อ.คีรีวงและ อ.ลานสกา แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เร่งให้ความช่วยเหลือ บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ประสานการปฏิบัติตลอด 24 ชั่วโมง
เบื้องต้นจัดรถครัวสนามเข้ามาตั้งในพื้นที่ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น พร้อมเร่งอพยพผู้คนที่ยังติดค้าง มายังศูนย์อพยพโดยด่วน คาดว่าใช้เวลา 6-7 วัน จนกว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลาย และลดระดับลง แต่หากน้ำยังคงท่วมขังการเข้าช่วยเหลือคงจะมีความยากลำบากจะต้องใช้ยุทโธปกรณ์ ปรับแผนการปฏิบัติโดยทันที
พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เน้นย้ำให้หน่วยทหารทุกหน่วยได้เตรียมความพร้อมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากในห้วงปลายพ.ย.-ธ.ค. ในพื้นที่ของภาคใต้ มีมรสุมประจำทุกปี จึงได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของยุทโธปกรณ์กำลังพล และก็ให้มีการซักซ้อมตลอด
ซึ่งกองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยดำเนินการสำรวจความพร้อม และทำหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดจากอุทกภัยเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ได้มีการแบ่งมอบพื้นที่เป็นอำเภอ เป็นเขตตำบลกันอย่างชัดเจน ว่าหน่วยไหนใครจะรับผิดชอบ ประสานการปฏิบัติกับทางจังหวัด ทางอำเภอ ตำบลที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วย
เพื่อที่จะประสานข้อมูลการติดต่อสื่อสาร เมื่อเกิดภัยธรรมชาติเกิดขึ้นให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา หน่วยทหารทุกหน่วยไม่ต้องรอรับคำสั่งสามารถปฏิบัติได้ตามแผนได้ทันที พี่น้องประชาชนรวมไปถึงท้องที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถประสานการให้ความช่วยเหลือ เครื่องไม้เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่โดยตรงได้ตลอด
พื้นที่นครศรีธรรมราชมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในขั้นต้น กว่า 23 อําเภอ ในขณะนี้แจ้งมาแล้ว 20 อำเภอเหลือ 2 อำเภอ คือ ทุ่งใหญ่ และบางขัน ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้ได้สั่งการไปยังหน่วยทหารในพื้นที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทั้ง 8 ศูนย์ ในพื้นที่นครศรีธรรมราช เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยด่วน
เนื่องจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 15 และมณฑลทหารบกที่ 41 เร่งให้การช่วยเหลือ เร่งขนย้ายสิ่งของและอพยพพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมายังศูนย์อพยพโดยด่วน พร้อมทั้งสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการเคลื่อนย้าย และอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่เส้นทางของ จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันเส้นทาง ถนนสายหลักถูกตัดขาด 7 สาย ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสาน ศูนย์ป้องกันภัยจังหวัดนำเรือเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยห้ามสัญจรเส้นทางโดยเด็ดขาด เพราะยังมีน้ำหลากขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หวั่นพี่น้องประชาชนจะได้รับอันตราย