สถิติคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อ้างอิงโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าปี 2560-2562 มีการรับแจ้งคดีความผิดที่เกี่ยวกับการพนันทุกประเภทเฉลี่ยปีละ 42,000 คดี จับกุม 56,000 คดี มีผู้ต้องหาปีละเกือบ 90,000 คน
ในจำนวนนี้เป็นคดีบ่อนการพนันที่มีเล่นตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป รับแจ้งเฉลี่ยปีละ 86 คดี จับกุม 900 คดี มีผู้ต้องหาเกือบ 2,500 คน
“บ่อน” ความผิดที่ยังมีคนแจ้งน้อย
ปี 2561 ที่ดูจะเป็นปีแห่งการปราบปรามการพนันเชิงรุก เพราะทั้งการจับกุมในปีนี้สูงกว่าปีอื่น มากกว่าที่ได้รับแจ้งเกือบ 2 เท่า ขณะที่ปีอื่นสถิติรับแจ้ง-จับกุมใกล้เคียงกัน (ดูภาพจำนวนคดีการพนัน-คลิกเลือกดูแต่ละประเภทได้)
อย่างไรก็ตาม “บ่อน” เป็นรูปแบบการพนันที่มีการแจ้งน้อยที่สุดทุกปี แต่ดำเนินคดีผู้ต้องหาได้มาก (ดูภาพสัดส่วนคดีการพนัน) ปี 2560 และ 2562 มีสัดส่วนผู้ต้องหาเฉลี่ยต่อคดีราว 30 คน
ยกเว้นปี 2561 ที่แม้มีการจับกุมจำนวนมาก แต่กลับมีสัดส่วนผู้ต้องหาน้อยกว่าปีอื่นอยู่ที่คดีละ 1 คน
ส่วนการพนันประเภทอื่นอย่างสลากกินรวบหรือพนันบอล มีผู้ต้องหาคดีละ 1 คนตลอด 3 ปี
พื้นที่ไหนจับได้เท่าไร
ดูเหมือนว่าการพนันแต่ละประเภท จะได้รับความนิยมจากนักพนันในพื้นที่มากน้อยแตกต่างกัน เช่น ตำรวจภูธรภาค 2, 3, 7 อยู่ใน Top 3 สลากกินรวบตลอด 3 ปี ขณะที่พนันบอลมีตำรวจนครบาล (กรุงเทพฯ) สูงสุดอยู่เสมอ
เมื่อเปรียบเทียบจำนวนการจับกุมระหว่างเขตพื้นที่ตำรวจรวม 3 ปี ตำรวจภูธรภาค 1 รับแจ้งและจับกุมบ่อนมากกว่าพื้นที่อื่น ดูแลพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ ปทุมธานี, สมุทรปราการ, อยุธยา, อ่างทอง, นนทบุรี, ชัยนาท, ลพบุรี, สระบุรี และสิงห์บุรี
ปี 2560 หลายพื้นที่มีการจับกุมน้อยกว่าที่ได้รับแจ้ง และแข็งขันในปี 2561 ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกับภาพรวม
ตำรวจภูธรภาค 4 แชมป์จับบ่อนสะสม
แม้ตำรวจภูธรภาค 1 จะมียอดรวมจับกุมบ่อนมากที่สุด แต่ทำอันดับแผ่วลงในปีล่าสุด ทำให้ตำรวจภูธรภาค 4 ที่ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ คว้าแชมป์อันดับสะสม 3 ปีในที่สุด
โดยตำรวจภูธรภาค 4 ดูแลพื้นที่อีสานตอนบน เรียงลำดับจังหวัดที่จับกุมมากที่สุดในพื้นที่ได้แก่ อุดรธานี, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, หนองบัวลำภู, มหาสารคาม, ขอนแก่น, สกลนคร, เลย, มุกดาหาร, หนองคาย, บึงกาฬ และนครพนม
รองลงมาคือตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งในภาพรวมตำรวจภูธรภาค 1, 3, 4, 7 มักอยู่ Top ของตาราง
ส่วนอันดับสะสมเมื่อรวมทุกประเภทการพนัน แชมป์คือตำรวจภูธรภาค 3 พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา, อุบลราชธานี ศรีสะเกษ, ยโสธร, อำนาจเจริญ, สุรินทร์, ชัยภูมิ และบุรีรัมย์
รองลงมาคือตำรวจภูธรภาค 7 พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นครปฐม, สุพรรณบุรี, ราชบุรี, กาญจนบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และเพชรบุรี
ระยอง-จันทบุรี-ตราด ไร้แจ้งไร้จับบ่อน
หากเปรียบเทียบรายจังหวัดแล้วละก็ กรุงเทพฯ จับคดีบ่อนมากที่สุด รวม 3 ปี 245 คดี รองลงมาคือปทุมธานี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา
และมี 16 จังหวัดไม่มีการจับบ่อนเลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงระยอง จันทบุรี ตราด ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 ทั้งที่จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เห็นแล้วว่ามีบ่อนในพื้นที่อย่างแน่นอน ซึ่ง 3 จังหวัดนี้ไม่มีรายงานรับแจ้งความเกี่ยวกับบ่อนเลยเช่นกัน
ส่วนชลบุรี อีกจังหวัดที่มีบ่อนแพร่โควิด-19 การจับกุมอยู่ในระดับกลางตาราง แต่การรับแจ้งอยู่อันดับที่ 6 ของประเทศ