ดร.ศุภกิจ วินิตพรสวรรค์ ผอ.ส่วนสารสนเทศด้านอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์กับ "ไทยพีบีเอสออนไลน์" หลังมีการตั้งข้อสังเกตในโซเชียลฯ ถึงกรณี "เจ้าดื้อ" ช้างป่าเขาใหญ่ที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา และพบว่าเป็นช้างป่าที่ติดปลอกคอ GPS
ผอ.ส่วนสารสนเทศด้านอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยว่า ช้างป่าตัวดังกล่าวติดปลอกคอ GPS เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นงานวิจัยของคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่ใช่การดำเนินงานของกรมอุทยานฯ
พร้อมคาดว่าสาเหตุที่ทำให้ "เจ้าดื้อ" ทำร้ายนักท่องเที่ยวอาจเกิดจากความเครียด โดยให้น้ำหนักไปที่การจับบังคับ ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในการติดปลอกคอ GPS บนตัวช้าง เนื่องจากเจ้าดื้อเป็นช้างธรรมชาติในป่าอนุรักษ์ ไม่เคยถูกจับบังคับมาก่อน อาจทำให้สัตว์รู้สึกแปลกและเกิดความเครียด
ประกอบกับ "ลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้" บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในช่วงที่เกิดเหตุ เป็นห้วงเวลาที่ช้างออกมาใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวทุกปี จึงทำให้มีความเสี่ยงเผชิญหน้ากับนักท่องเที่ยว
ปัญหานี้ กรมอุทยานฯ อาจต้องพิจารณามาตรการป้องกันเพิ่มเติม หรืออาจพิจารณาปิดพื้นที่ในห้วงเวลาที่ช้างออกหากิน
ดร.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ติดปลอกคอช้าง พบว่าช้างตัวผู้ที่ได้รับการติดปลอกคอ จะเกิดความรู้สึกแปลกในช่วงแรกและจะแสดงพฤติกรรมโดยใช้งวดแตะที่ปลอกคอ แต่หลังจากนั้นจะเริ่มคุ้นชินและไม่ยุ่งกับปลอกคออีก ขณะเดียวกันไม่พบการแสดงพฤติกรรมดังกล่าวในช้างตัวเมีย พร้อมยืนยันว่าอุปกรณ์ปลอกคอ GPS ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตของช้าง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยของช้างแต่ละตัวด้วย
ส่วนความแตกต่างการติดปลอกคอช้างแต่ละพื้นที่นั้น กรมอุทยานฯ จะติดปลอกคอให้กับช้างนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หรือช้างที่ใช้พื้นที่หากินนอกป่า การทำงานจึงค่อนข้างยากลำบากและต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยหลังจากติดเสร็จแล้วปลอกคอจะเริ่มทำงานทันที เจ้าหน้าที่จะติดตามสัญญาณอย่างใกล้ชิด 3-5 วัน หลังจากนั้นก็จะติดตามและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนการติดปลอกคอช้างที่อยู่ในป่าอนุรักษ์ การทำงานจะไม่ซับซ้อน
พร้อมถอดปลอกคอ "เจ้าดื้อ" คาดทำให้หงุดหงิด
ด้านนายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า มีการขออนุญาตติดปลอกคอ "เจ้าดื้อ" จริง แต่ยังไม่ได้เปิดสัญญาณ GPS ส่วนสาเหตุที่เลือกติดปลอกคอให้กับเจ้าดื้อ เพราะเป็นช้างที่มาหากินและวนเวียนอยู่แถวพื้นที่ผากล้วยไม้เป็นประจำ โดยหลังเกิดเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวก็ยังคงมาป้วนเปี้ยนอยู่ในพื้นที่
เมื่อถามว่าการติดปลอกคอเจ้าดื้อเป็นปัจจัยที่ทำให้ทำร้ายคนหรือไม่ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระบุว่า เบื้องต้นสันนิษฐาน 3 สาเหตุ คือ ช้างอยู่ในช่วงตกมันในฤดูผสมพันธุ์ ส่วนการติดปลอกคอเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจทำให้ช้างเกิดความหงุดหงิด และสาเหตุสุดท้ายพบว่าบนรถของผู้เสียชีวิตที่ห่างกัน 5 เมตร รวมถึงในเต็นท์ มีส้มโอหลงเหลืออยู่ จึงอาจดึงให้ช้างเข้ามาที่เต็นท์
ยังไม่ปักใจว่าเจ้าดื้อตั้งใจทำร้ายนักท่องเที่ยวจนเสียชีวิต แต่เป็นช้างตัวเดียวที่มาป้วนเปี้ยนแถวผากล้วยไม้เป็นประจำ และขณะนี้ประเมินว่าหากช้างไม่สามารถปรับตัวกับปลอกคอได้ ก็จะพิจารณาถอดออกทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดจุดกางเต็นท์เขาใหญ่ไม่มีกำหนด คาด "เจ้าดื้อ" กระทืบ นทท.ตาย
ทำไม? "เจ้าดื้อ" ช้างป่าเขาใหญ่ทำร้ายคนตาย
10 ข้อปฏิบัติเมื่อเจอ "พี่ดื้อ" ช้างป่าเขาใหญ่และผองเพื่อน