วันนี้ (1 ก.พ.2564) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ กรณีแจกข้าวสาร หน้ากาก น้ำยาฆ่าเชื้อ ให้ประชาชนชาวหลักสี่-จตุจักร ซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 นับตั้งแต่ มี.ค.2563 มาจนถึงปัจจุบันว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนระเบียบของ กกต.หรือไม่
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า นายสิระ ได้การแจกสิ่งของต่าง ๆ เช่น ข้าวสาร หน้ากาก น้ำยาฆ่าเชื้อ ให้ประชาชนซึ่งเป็นฐานเสียงของตนเอง พยายามที่จะเลี่ยงบาลีโดยใช้คำว่า กลุ่มเพื่อนสิระแทน การที่ ส.ส.แจกสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 สามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นการให้ในแต่ละโอกาสเมื่อมีเหตุอันสมควรและเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตาม ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณีหรือเมื่อมีเหตุอันสมควร และการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป พ.ศ. 2561 ด้วย ซึ่งได้กำหนดโดยมีราคาหรือมูลค่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะให้ได้ไม่เกิน 300,000 บาท แต่หากให้ที่เกินกว่าจำนวนที่กำหนดดังกล่าว กฎหมายกำหนดให้นำไปรวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป ทั้งนี้ในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา กกต.กำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. แต่ละคนได้ไม่เกิน 1,500,000 บาท เพื่อไม่ให้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบกันของคู่แข่งขันในการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งต้องสุจริตและเที่ยงธรรม
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายสิระได้ดำเนินการแจกข้าวสาร หน้ากาก น้ำยาฆ่าเชื้อและอื่น ๆ ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ฐานเสียงของตนเองไปแล้วมีจำนวนรวมไม่ต่ำกว่า 3,257,500 บาท ดังนั้นการที่นายสิระ เจนจาคะ ได้แจกสิ่งของให้ประชาชนชาวหลักสี่ จตุจักร ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของตนเองที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ซึ่งมีมูลค่ามากเกินไปกว่าที่ กกต.กำหนดไปมาก อาจเป็นเหตุทำให้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายสิระอาจมีปัญหาในการทำบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งได้ และอาจทำให้ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกไม่ว่าจะอยู่พรรคใด
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานมาให้ กกต. เพื่อสั่งการให้เลขาธิการ กกต.ตรวจสอบและบันทึกไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป ตามระเบียบหรือกฎหมายที่กำหนดไว้ต่อไป