วันนี้ (8 ก.พ.2564) ตำรวจในเมืองเมียวดีของเมียนมา ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าโดยใช้กระสุนจริง และยิงลงพื้น ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแตกตื่นและล่าถอย โดยตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมได้ 6 คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตื่่นตระหนกให้กับผู้ชุมนุมในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ออกมารวมตัวตามท้องถนนเพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี และนาย วิน มินต์ ประธานาธิบดี รวมถึงผู้ที่ถูกจับกุมทุกคน แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะสร้างความตื่นตระหนก แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ส่วนที่นครย่างกุ้ง ประชาชนแทบทุกสาขาวิชาชีพต่างออกมารวมตัวกันบนท้องถนน ซึ่งส่วนใหญ่แต่งกายด้วยสีแดง พร้อมชู 3 นิ้วและชูรูปของซู จี และสัญลักษณ์พรรคเอ็นแอลดี พร้อมตะโกนข้อความต่อต้านการทำรัฐประหารและกองทัพ ในขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์และรถประจำทางต่างบีบแตรเพื่อแสดงพลังสนับสนุนการเดินขบวนประท้วงและแสดงอารยะขัดขืนต่อต้านการก่อรัฐประหาร
ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์
ขณะที่ทางการเมียนมาระดมกำลังตำรวจปราบจลาจลพร้อมอาวุธครบมือและรถบรรทุกมาประจำการตามสถานที่สำคัญหลายแห่งในนครย่างกุ้ง นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งระงับบริการของทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก รวมทั้งบริการอื่นๆ ภายใต้บริษัทเฟซบุ๊ก ก่อนจะตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 สัปดาห์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นความพยายามของกองทัพ เพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาสังคมในประเทศ
ทั้งนี้ การแสดงพลังของชาวเมียนมาในครั้งนี้ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่การปฏิวัติผ้าเหลืองในปี 2550 ที่พระสงฆ์เป็นหนึ่งในแกนนำการประท้วง เนื่องจากไม่พอใจรัฐบาลทหารที่ยกเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมันและแก๊ส ทำให้ราคาพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัว ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ซึ่งการปราบปรามของเจ้าหน้าที่รัฐในตอนนั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 30 คน และผู้ประท้วงถูกจับกุมหลายร้อยคน