ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปิดล้อมคอนโดข้ามวัน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงดับพร้อมแฟน - พี่เลี้ยงเด็ก

อาชญากรรม
6 มี.ค. 64
10:00
33,906
Logo Thai PBS
ปิดล้อมคอนโดข้ามวัน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงดับพร้อมแฟน - พี่เลี้ยงเด็ก
เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการบุกจู่โจมคอนโดมิเนียมที่ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงขังตัวเองอยู่ในห้อง พร้อมแฟนสาว อายุ 18 ปี และพี่เลี้ยงเด็ก หลังจากปิดล้อมข้ามวัน ไม่พบความเคลื่อนไหวและเงียบผิดปกติ โดยพบว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว

วันนี้ (6 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.เชียงใหม่ ปักหลักปิดล้อมจับนายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี ชาวบ้าน อ.เชียงคำ จ.พะเยา และแฟนสาว อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ มาตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (5 มี.ค.)

 

 

 

จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่นำญาติเข้าไปเจรจา แต่ไม่พบความเคลื่อนจากในห้อง ชุดปฏิบัติการพิเศษจึงจู่โจมเข้าไปตรวจสอบ และพบว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว ซึ่งในห้องยังพบจดหมายเขียนข้อความถึง พ่อ-แม่ ฝากให้ช่วยดูแลลูก จึงเชื่อว่าอาจเป็นการใช้ปืนยิงตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืนดัง 4 นัด

 

 

 

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 คาดว่า นายสุเมธ น่าจะเป็นผู้ใช้ปืนยิง ผู้หญิงอีก 2 คน เสียชีวิตบนเตียงนอน แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง

โทรเรียกญาติให้มารับลูกตั้งแต่เมื่อวานนี้

ก่อนหน้านี้ ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาเช่าห้องในคอนโดมิเนียม ช่วงเช้าวานนี้ ตำรวจจึงนำหมายศาลเข้าจับกุม แต่นายสุเมธ และแฟนสาวไม่ยินยอมขู่จะยิงตัวตาย ซึ่งขณะนั้นภายในห้อง มีลูกและพี่เลี้ยงอยู่ด้วย ตำรวจจึงถอยกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก

และในช่วงบ่าย นายสุเมธโทรศัพท์ให้ญาติมารับตัวลูกออกไปจากคอนโดมิเนียม เวลาประมาณ 17.00 น. ตำรวจจึงตัดสินใจจะเข้าไปจับกุมอีกครั้ง แต่นายสุเมธยิงปืนข่มขู่ประมาณ 4 นัด และไม่ทราบความเคลื่อนไหวภายในห้อง ทำให้ตำรวจต้องถอยกำลังออกมาอีกครั้งและเรียกกำลังเสริม พร้อมย้ายผู้อาศัยออกจากคอนโดมิเนียม เพื่อความปลอดภัย

 

 

 

หลอกขายป้ายรถสวย เสียหายกว่า 50 ล้าน

ทั้งนี้ นายสุเมธ เป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง มีพฤติกรรมก่อเหตุหลอกขายป้ายทะเบียนรถเลขสวย ผ่านเว็บไซต์มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจกว่า 20 แห่ง และเพิ่งมีการดำเนินคดีจนถึงศาลตัดสิน พร้อมออกหมายจับ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง