วันนี้ (19 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าใช้จ่ายในการศึกษา โดยเฉพาะ "เครื่องแบบนักเรียน" เป็นประเด็นถกเถียงมาโดยตลอดทั้งในมิติของผลกระทบด้านสังคมและเศรษฐกิจ วิเคราะห์ข่าวชิ้นนี้ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของค่าใช้จ่ายด้านการเรียน ที่มีค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก แม้แต่ค่าปักชื่อนักเรียนที่แพงถึงตัวละ 75 บาท ดูไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับบางครัวเรือน แต่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 อาจจะต้องแลกมาด้วยผลพวงภาระด้านเศรษฐกิจของผู้ปกครอง
ผลงานเรื่อง "กว่าจะถึงวันเปิดเทอม" โดย น.ส.พิมพิมล ปัญญานะ ออกอากาศในช่วงวัคซีนเศรษฐกิจ ในรายการข่าวจับตาสถานการณ์ ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลบทความ "ป๋วย อึ๊งภากรณ์" ประจำปี 2563 เช่นเดียวกับ ผลงานเรื่อง "ทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน" โดยนางลักขณา หมานระเด่น ออกอากาศในรายการข่าวค่ำมิติใหม่ ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ที่สะท้อนช่องว่างและปัญหาโครงการเราเที่ยวด้วยกันจนก่อให้เกิดการทุจริต และหาประโยชน์จากโครงการเยียวยาภาคธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว
โดยรัฐร่วมจ่ายค่าที่พักและตั๋วเครื่องบินให้กับประชาชน ด้วยงบประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่กลับตรวจพบพฤติกรรมเข้าข่ายทุจริตหลายรูปแบบ เช่น การหาเครือข่ายล่าชื่อ เพื่อจองโรงแรมและเช็กอินผ่านแอปคลิเคชันเป๋าตังก์ แต่ไม่เข้าพักจริง เพื่อรับประโยชน์จากการใช้คูปองและราคาห้อง การที่โรงแรมปรับราคาห้องพักสูงขึ้นกว่าความจริง เป็นต้น และล่าสุดแม้โครงการเราเที่ยวด้วยกันมีแผนขยายในระยะที่ 3 แต่การทุจริตที่ยังแก้ไขไม่สำเร็จ ทำให้คณะกรรมการกลั่นกรองงบประมาณเงินกู้ยังไม่อนุมัติโครงการนี้