วันที่ 30 พ.ค.2564 เพจเฟซบุ๊กโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยเรื่องราวและความรู้สึกของ 2 ผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการรุนแรงระดับวิกฤต ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จนกระทั่งได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้น ว่า
"เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จากใจผู้ป่วยโควิด" คำบอกเล่าของผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการรุนแรงระดับวิกฤต ต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจนานหลายวัน จนถึงวันที่ได้ถอดพันธนาการจากเครื่องพยุงชีวิตต่าง ๆ และแข็งแรงพอที่จะบอกเล่าความรู้สึกได้
ผู้ป่วยคนแรก เป็นหญิงวัย 58 ปี ส่งตัวจาก รพ.ชุมชน มารักษาที่ รพ.นครพิงค์ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เธอบอกเล่าด้วยเสียงที่ยังแหบ เนื่องจากใส่ท่อช่วยหายใจอยู่นาน 6 วัน ว่า " ขอบคุณนัก ๆ เจ้า ตี้จ้วยฮื้อป้ารอดชีวิต ขอบคุณหมอพยาบาล อยากบอกกู้คนว่า กินร้อนช้อนกลาง ใส่หน้ากากนะเจ้า"
ผู้ป่วยคนที่ 2 เป็นชายวัย 44 ปี ส่งตัวจาก รพ.สนาม มารักษาที่ รพ.นครพิงค์ ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ 6 วัน อาการค่อย ๆ ทุเลาลง จนถอดท่อช่วยหายใจได้แล้ว บอกเล่าว่า "อาการผมดีขึ้นมาก เหนื่อยนิดเดียวแล้ว ขอบคุณหมอ พยาบาลครับที่ช่วยผมผ่านวิกฤตมาได้"
ผู้ป่วยทั้ง 2 คนนี้ได้รักษาตัวใน รพ.นครพิงค์ 8 และ 16 วัน ตามลำดับ จากที่เคยมีอาการระดับวิกฤต (สีแดง) จนในวันนี้อาการลดระดับลงมาเหลือเพียงปานกลาง (สีเหลือง) จึงได้ส่งตัวไปพักฟื้นต่อที่ รพ.ชุมชน เพื่อให้ รพ.นครพิงค์ มีพื้นที่สำหรับดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหนักกว่าต่อไป
จากแผนยุทธศาสตร์ของ จ.เชียงใหม่ ที่ให้ รพ.นครพิงค์ เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลผู้ป่วยหนักร่วมกับ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ หน้าที่หลัก คือ การพาคนไข้ให้พ้นวิกฤต ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 30 เม.ย. รพ.นครพิงค์ ให้การดูแลผู้ป่วย COVID-19 ระลอกเดือน เม.ย. แล้ว 168 คน รักษาจนอาการดีขึ้นสามารถย้ายไป รพ.สนาม หรือ รพ.ชุมชน แล้ว 125 คน ยังอยู่ใน รพ. 41 คน และเสียชีวิต 2 คน