วันนี้ (13 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 3 จับกุม น.ส.สุรีพร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ โดยตำรวจพบว่า น.ส.สุรีพร มีพฤติการณ์จัดฉากหลอกแต่งงานกับนายนิราช ซึ่งเป็นชาวอินเดีย ให้พนักงานตรวจคนเข้าเมืองหลงเชื่อ เพื่อใช้สิทธิอนุญาตให้อยู่ต่อภายในราชอาณาจักร แต่จากการตรวจสอบ กลับพบว่าทั้ง 2 ไม่ได้อาศัยอยู่ร่วมกัน ในความสัมพันธ์ฐานะสามีภรรยากัน
จับหญิงไทยรับจ้างจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดีย
ตำรวจสามารถควบคุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จากการสอบปากคำ น.ส.สุรีพร รับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากนายนิราชขอให้จดทะเบียนสมรสด้วย ในราคา 5,000 บาท และร่วมกันปลอมสัญญาเช่าที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ สำหรับนายนิราช ชาวอินเดีย ได้ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้แล้ว
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหา เป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด COVID-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดีย สร้างความหวาดกลัวให้กับคนในประเทศ จึงได้ดำเนินการเพิ่มมาตการเข้มงวดตามแนวชายแดน และทุก สตม.ทั่วประเทศให้มากขึ้น
ประสานหน่วยงานตรวจเข้มลอบเข้าไทย
นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานทั้งตำรวจ ทหาร ปกครองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข บูรณาการร่วมกันสกัดกั้นบุคคลต่างชาติที่จะลักลอบเข้าไทย รวมทั้งตามสนามบินทุกแห่ง แต่ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยอมรับว่า สำหรับมาตรการตามแนวชายแนวอาจมีอุปสรรค เนื่องจากพื้นมีระยะทางยาวประมาณ 5,000 กิโลเมตร ยากต่อการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยสอดส่องดูแลและแจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่หากพบมีผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ยืนยันว่าขณะนี้ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง
ตำรวจ สตม.52% ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว
พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา สตม.จับกุมดำเนินคดีผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 4,000 กว่าคน โดยเน้นย้ำว่าหากพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด หรือช่วยเหลือการหลบหนี จะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด
ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้ตำรวจ สตม. ขณะนี้ได้ดำเนินการฉีดเข็มแรกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม.แล้ว ร้อยละ 52 และฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้ว ร้อยละ 38 นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ยังชี้แจงกรณีที่ พ.ต.ท.วิญญู พันธุ สารวัตรกองกกำกับการ 3 สตม.เสียชีวิตนั้น ผลการชันสูตรไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเข้าในร่างกายและทำให้เสียชีวิต