วันนี้ (2 มิ.ย.2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เดือน มิ.ย.นี้ จะเป็นเดือนแห่งการกระจายและฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ให้ประชาชนในวงกว้าง ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่นายกรัฐมนตรี มอบให้กระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติ
ส่วนข่าวต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ขอให้ประชาชนเชื่อถือข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขให้มากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติควบคุมการจัดส่งวัคซีน
ทั้งนี้การกระจายวัคซีนมีมาตลอด เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) กระจาย 1,100,000 โดส ทั้งซิโนแวค และแอสตราเซเนกา กระจายไปยังหน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ
เมื่อถามถึงวัคซีนแอสตราเซเนกาที่กระจายไปแล้วเป็นล็อตที่ผลิตจากแหล่งใด นายอนุทิน ระบุว่า เป็นไปตามสัญญากับบริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งวัคซีนที่ได้มาจะมาจากที่ใดก็ตามนั่นก็คือวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งมีทั้งที่ผลิตในประเทศไทย หรืออาจจะมีการนำเข้าจากต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับ Supply Chain ของบริษัทที่จะจัดส่งมา ส่วนตัวเลขจำนวนวัคซีนนั้นทางแอสตราเซเนกาจะเป็นผู้แถลง
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าวัคซีนแอสตราเซเนกาที่มามีจำนวนน้อย นายอนุทิน กล่าวว่า คนไหนพูดว่าน้อยเกินไปก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ฟังที่กระทรวงสาธารณสุขพูด
กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค จะต้องทำความตกลงกับบริษัทโดยดูจากทักษะ ความสามารถในการฉีดวัคซีนของไทย ความสามารถในการผลิตของบริษัท คือเอาความสามารถของทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยแล้วตกลงกันว่าแต่ละเดือนจะใช้วัคซีนเท่าไหร่ จากนั้นก็ทยอยส่งเป็นรายสัปดาห์ แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ดีของทั้ง 2 ฝ่าย
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การกระจายวัคซีนเป็นไปตาม ศบค.โดยทุกจังหวัดต้องมีเท่ากัน เบื้องต้นคือหารเท่ากันก่อน จังหวัดใดที่อยู่ไกลการขนส่งลำบากก็จะส่งไปก่อน ซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งการให้กระจายไปแล้ว 1,000,000 โดส บางจังหวัดได้รับแล้ว บางจังหวัดอาจจะอยู่ระหว่างจัดส่ง
ส่วนจังหวัดใดที่มีการระบาดมากก็จะได้รับในจำนวนที่มาก เช่น ระบาดที่กรุงเทพฯ ก็จะได้รับการจัดสรรจำนวนมาก ในเดือน มิ.ย.ได้ 1,000,000 โดส ล่าสุดได้หารือกับสำนักอนามัย กทม.แล้ว กำหนดจุดฉีด 25 จุด จะทยอยส่งวัคซีนให้รายสัปดาห์
นอกจากนี้ยังมีการกระจายตามพื้นที่จำเพาะตามนโยบาย เช่น พื้นที่ท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต สังเกตดูขณะนี้จังหวัดที่มีเปอร์เซ็นต์การฉีดสูงสุด คือ ภูเก็ต มีการฉีดเข็มแรกไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ของเป้าหมาย 400,000 คน โดยรวมฉีดไปแล้วกว่า 300,000 โดส ส่วน จ.ชลบุรี เมืองพัทยา และเกาะสมุย พรุ่งนี้ (3 มิ.ย.) ก็จะได้ไปเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม การจัดสรรวัคซีนนั้นจะมีความยืดหยุ่น โดย ศบค.ให้มาเป็นแผนรายเดือนแล้วมาจำแนกเป็นรายสัปดาห์ โดยขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่มีต่อความต้องการการฉีด จังหวัดใดที่ได้รับไปแล้วการฉีดทำได้ไม่มาก แล้ววัคซีนยังฉีดไม่หมด สัปดาห์ต่อมาก็จะไม่ส่งให้แต่ให้ฉีดของเดิมให้หมดก่อน
นพ.โอภาส กล่าวว่า การฉีดวัคซีนต้องมีความเหมาะสม แต่ละพื้นที่เป้าหมายในการฉีดมีความคล้ายคลึงกันทั้งที่มีการจองเอาไว้แล้ว ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังควรได้รับการฉีดตามที่จองเอาไว้ ทั้งนี้บางพื้นที่ที่จะมีการเปิดเทอมก็ต้องฉีดให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อน
ขณะที่กลุ่มพิเศษที่นายกฯ กำหนดขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้นได้ให้โควต้ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ซึ่งในเดือน มิ.ย.นี้จำนวน 1,000,000 โดส ซึ่งมีการหารือร่วมกับสำนักงานประกันสังคมแล้วจะมีการกำหนดจุดฉีดแล้วก็จะมารับวัคซีนกระจายไปยังจุดฉีดเหล่านั้น
อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มเฉพาะเช่นเดียวกันคือ ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัย 11 แห่ง จะเข้ามาช่วยมีการกำหนด 11 จุดฉีด ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นต้น โดยมีโควต้าให้ 500,000 โดส แล้วแต่จะไปพิจารณากระจายกันเอง แล้วเราก็มีหน้าที่กระจายไปตามจุดต่างๆ ที่กำหนด
สำหรับกลุ่มนักโทษในเรือนจำนั้น ได้มีการหารือร่วมกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้วว่ากลุ่มใดควรจะฉีดก่อน-หลัง ยกตัวอย่างเช่น เรือนจำที่มีการติดเชื้อไปค่อนข้างมากไม่จำเป็นต้องรีบเพราะส่วนใหญ่ติดเชื้อแล้วจึงต้องรอประมาณ 3 เดือนแล้วค่อยฉีด ดังนั้นวัคซีนระยะนี้จะเน้นในเรือนจำที่ยังไม่มีการติดเชื้อเพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า