วันนี้ (5 ก.ค.2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ตรวจหาสายพันธุ์ COVID-19 ในผู้ป่วย 11,233 ตัวอย่าง พบว่าเป็นสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) 9,209 คน หรือ 81.98% สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) 721 คน หรือ 16.36% และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) 186 คน หรือ 1.66%
นพ.ศุภกิจ วิเคราะห์สัดส่วนสายพันธุ์ที่เฝ้าระวังในช่วงวันที่ 28 มิ.ย.-2ก.ค.2564 ว่า ได้ตรวจหาสายพันธุ์จำนวน 2,238 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า เป็นสายพันธุ์อัลฟา 65.1% เดลตา 32.2% ในพื้นที่ 47 จังหวัด และเบตา 2.6%
ใน กทม.ตรวจหาสายพันธุ์ 936 ตัวอย่าง เป็นสายพันธุ์เดลตา 52% สายพันธุ์อัลฟา 47.8% เรียกว่าเดลตา กระจายไปเกือบทุกเขตใน กทม. และบอกได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดใน กทม.
ส่วนในภูมิภาคตรวจ 1,302 ตัวอย่าง เป็นสายพันธุ์อัลฟา 77.6% เดลตา 18% และเบตา 4.4%
ภาพรวมทั้งประเทศสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว แต่ในกรุงเทพฯ พบสายพันธุ์เดลตา มีสัดส่วนมากกว่าสายพันธุ์อังกฤษแล้ว เป็นเรื่องที่มาค่อนข้างเร็ว และอาจเร็วกว่าที่คาดการณ์
ขณะที่สายพันธุ์เบตา ในสัปดาห์นี้พบเพิ่มขึ้น 59 คน ส่วนใหญ่อยู่ใน จ.นราธิวาส 52 คน และกระจายไปยังสุราษฎร์ธานี 1 คน นครศรีธรรมราช 3 คน กระบี่ 1 คน กทม. 2 คน ซึ่งเป็นญาติกับผู้ป่วยรายแรกที่ตรวจพบ