วันนี้ (9 ก.ค.2564) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2565 เปิดเผยว่า มีข้าราชการระดับอธิบดีคนหนึ่ง มีพฤติกรรมโวยวาย ขู่อาฆาต และประกาศ "..ใครตัดงบจะจำจนวันตาย" หลังอนุกรรมาธิการคณะที่ 1 เสนอตัดงบฯ เพียง 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ฝากไปยังอธิบดีและผู้มาชี้แจงว่า ที่รัฐสภาคือที่มาชี้แจงและการของบประมาณแผ่นดิน การตัดลดงบฯ เป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากหลายหน่วยงานจัดทำงบประมาณที่ไม่เหมาะสมถูกต้อง ซ้ำซ้อน ก่อนจะยืนยันรัฐสภาไม่มีใครกลัวใคร แต่กลัวความถูกต้องและวิชาการ
และในช่วงบ่ายวันนี้ ประธานคณะกรรมาธิการจะสรุปแนวทางการทำงานของกรรมาธิการงบประมาณว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร หลังจากที่ ศบค.ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ 14 วัน งดประชุมก็จะส่งผลกระทบ เพราะเวลาการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณในวาระที่ 2-3
นายจิรายุ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเมาหมัดกรณีประกาศล็อกดาวน์ที่ไม่ต่างกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนที่ไม่มีคนเดินทางหลังเวลา 21.00 น. และเสียเวลาออกประกาศ เจ็บแต่ไม่จบ จบแต่ชีวิตของประชาชน
ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีประกาศไม่รับเงินเดือนเวลา 3 เดือน อาจจะล่าช้าไปหรือไม่ และไม่ใช่ทางออกของปัญหาประชาชน แม้ว่าจะมีเจตนาดี ซึ่งขอให้รัฐบาลไปรีดไขมันงบประมาณที่ไม่จำเป็น และจัดหาวัคซีนแทน
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ กล่าวว่า วันนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณของกระทรวงคมนาคม หลังเสร็จสิ้นการพิจารณางบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หากมีเวลาเพียงพอก็จะพิจารณางบของกระทรวงการต่างประเทศด้วย ซึ่งมีความคืบหน้าร้อยละ 19.7 ของวงเงินงบประมาณแล้ว และประชุมไปแล้ว 17 วัน รวม 138 ชั่วโมง ผ่านการพิจารณาไปแล้ว 5 กระทรวง 3 กองทุน
และนับจากคณะอนุกรรมาธิการฝึกอบรมฯ จะประชุมเพิ่มวันเสาร์ของทุกสัปดาห์อีก 1 วัน เนื่องจากต้องพิจารณางบประมาณวงเงินกว่า 200,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ มีข้อเสนอแนะจากกรรมาธิการพิจารณางบประมาณของกรมการขนส่งทางบก ถึงปัญหาแรงงานข้ามชาติถูกกฎหมายที่ลักลอบขับรถยนต์ในประเทศไทย แต่ป้ายจราจรมีเพียงภาษาไทย
จึงเสนอแนะให้จัดทำภาษาอื่นเพิ่มเติม เช่น ภาษาเมียนมา เพื่อช่วยลดปัญหาและลดอันตรายที่เกิดขึ้นบนท้องถนน