วันนี้ (6 ส.ค.2564) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติ การตรวจด้วยชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) เพื่อเข้าสู่ระบบ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) ว่า เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมค้นหาเชิงรุกในชุมชนพื้นที่ กทม. ทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันพบปัญหาในหน้างานว่า ผู้ติดเชื้อที่มีผลบวก จากการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK จะต้องมีการตรวจ RT-PCR หรือส่งเข้าสู่ระบบ HI และ CI ได้หรือไม่ เมื่อเช้านี้จึงนำประเด็นนี้เข้าหารือในศูนย์อีโอซี สธ.อีกครั้ง โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เคลียร์ในประเด็นนี้อีกครั้ง จนได้ข้อสรุปแล้ว
ยืนยันว่า ผู้มีผลตรวจ ATK ซึ่งในทางระบาดวิทยาให้เรียกว่าผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ผลบวก สามารถส่งต่อระบบ HI โดยไม่จำเป็นต้องทำ RT-PCR ซ้ำ
ATK ผลบวกจะเข้า CI-Hospitel ต้องเซ็นยินยอม
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แต่หากจะเข้าไปในสถานที่อื่นๆ เช่น Hospital ,Hospitel รวมทั้ง CI ที่กทม.มีศูนย์พักคอย 50-60 แห่ง ถ้าจะเข้าใน 3 ระบบนี้ ประเด็นคือ จะเข้าไปปะปนกับกลุ่มที่ได้รับการยืนยันว่า เป็นผู้ติดเชื้อแล้ว เพราะผลจาก ATK ซึ่งอาจให้ผลบวกลวง 3-5 %ได้
ดังนั้นไม่อยากให้คนที่ไม่ติดเชื้อไปปนกัน จึงจำเป็นต้องตรวจ RT-PCR คู่ขนานด้วย และเพื่อไม่ให้ RT-PCR เป็นตัวหน่วงรั้งการรับรักษา ก็ให้รับเข้าใน Hospital Hospitel รวมทั้ง CI
ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากการตรวจ ATK จะต้องยินยอม และ เซ็นใบยินยอมรับการรักษา และทำ RT-PCR คู่ขนานกันไปด้วย ทั้งนี้ได้มีการคุยกับทางสำนักอนามัย กทม.แล้วว่าให้รับเข้า CI ได้ พร้อมทั้งเพื่อลดปัญหาได้เตรียมให้ แล็บเอกชนมาทำระบบตรวจ RT-PCR ที่หน้างาน
นพ.สมศักดิ์ ยืนยันว่าเพื่อไม่ให้ผู้ที่มีผลตรวจ ATK เจออุปสรรคต่อการรักษา แต่ก็ต้องพยายามจะไม่ให้ผู้มีผลตรวจไปปะปนกัน จึงจะพยายามแยกผู้ป่วยระหว่างรอผล RT-PCR เพราะอย่างที่บอกว่าผลตรวจ ATK ให้ผลบวกลวงได้ 3-5 %
อ่านข่าวเพิ่ม ปลดล็อกตรวจ ATK เป็นบวก เข้าระบบ HI ได้ ยอดสะสม 10,366 คน
เช็กขั้นตอนเข้ารักษา
สำหรับการนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรณีการตรวจที่โรงพยาบาลจะไม่มีปัญหา เพราะทางโรงพยาบาลจะรับได้เลย
ส่วนกรณีการตรวจเชิงรุกในชุมชน จะมีการขึ้นทะเบียนผู้ป่วยไว้แล้ว โดยสปสช.จะข้อมูลผู้ติดเชื้อนำไปจับคู่กับคลินิกชุมชน รพ.สต./รพ.ถ้าทำได้จะทำ HI และ CI
ส่วนผู้ติดเชื้อที่เกิดจากการตรวจเอง และต้องตรวจจากเทสก์ที่ได้รับการรับรองจากอย.แล้วให้ถ่ายรูปผลตรวจ ATK ติดต่อที่ 1330 ซึ่งมี 3,000 คู่สายและแอดไลน์เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาเช่นกัน
ขณะเดียวกันผู้ว่าฯ กทม.ได้ประสานให้ทั้ง 50 เขตของกทม. ทำเบอร์ติดต่อรองรับเขตละ 20 คู่สาย เพื่อให้ประชาชนติดต่อเข้ารักษา และปรึกษากรณี COVID-19 แต่หากฉุกเฉินเร่งด่วนอาการวิกฤตให้ประสาน 1669
เร่งเคลียร์สปสช.รอไม่ให้เกิน 48 ชั่วโมง
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนคำถามว่า โรงพยาบาลไม่ยอมรับตรวจ RT-PCR มีความผิดหรือไม่ ขณะนี้กรมการแพทย์ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนกรณีแนวปฏิบัติรองรับ ATK ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนความล่าช้าที่นานถึง 48 ชั่วโมงหรือ 2 วันหลังจากแจ้งเข้าระบบ 1330 ของสปสช.แล้ว เนื่องจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ได้พยายามเคลียร์ไม่ให้เกิน 48 ชั่วโมง
กลับก่อน 14 วันจะแพร่เชื้อหรือไม่
นอกจกานี้นพ.สมศักดิ์ ยังตอบคำถามกรณีให้ผู้อยู่โรงพยาบาลสนาม 7-10 กลับไปกักตัวที่บ้านจะเสี่ยงต่อการแพร่เชื่อหรือไม่ว่า กรณีครบ 7-10 วันที่ไม่พบเชื้อแล้วจากโรงพยาบาลสนาม เป็นการให้ไปแยกกักตัวที่บ้าน มีอาหารบริการ 3 มื้อไม่ให้ออกไปหาซื้ออาหารเอง ที่ต้องทำ เพราะพยายามรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่จะมีเชื้อมากกว่าคนที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งโอกาสแพร่กระจายเชื้อสูงกว่าผู้ผ่านการรักษาไปแล้ว 7-10 วัน เป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กางสถิติ! 1 เดือนกลับบ้านรักษาโควิดเฉียดแสน
ไทยติดโควิดรายวันเพิ่ม 21,379 คน เสียชีวิต 191 คน