ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ โดยสาเหตุจากฝนตกหนัก ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู มีน้ำท่วมสูง 1-1.50 เมตร ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ (30 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กสมุทรปราการ รายงานว่าภาพรวมพื้นที่นิคมบางปู มีดังนี้ ถนนพัฒนา 1 รถเล็กสัญจรได้ แต่ช่วงซอย 12-14 ยังมีน้ำขังเต็มผิวจราจร รถยนต์เล็กไม่ควรผ่าน
- พื้นที่เขตทั่วไปโซน A 6a 8a 9a น้ำยังสูงประมาณ 20 ซม. ซอย A อื่นๆ รถเล็กเข้าได้
- พื้นที่เขตทั่วไปโซน B ตั้งแต่ 1B - 5B รถยนต์เล็กวิ่งได้ ส่วน 6B-9B มีน้ำสูงประมาณ 20 ซม.
- ถนนพัฒนา 2 รถยนต์เล็กวิ่งได้ตลอด
- พื้นที่เขตทั่วไปโซน C ตั้ง 1C-3C รถยนต์เล็กวิ่งได้ ส่วน 4C-9C มีน้ำสูงประมาณ 20 ซม.
- ถนนพัฒนา3 ตั้งแต่ ซอย 1- 6 รถยนต์เล็กวิ่งได้ ช่วง ซอย 6 - 9 น้ำขังประมาณ 20 ซม.โซน D ซอย 6D พัฒนา4 8D น้ำสูงประมาณ 20 ซม.
- ซอย 11B - 14B น้ำสูงประมาณ 20 ซม. ยกเว้นช่วงกลางซอย 11B และ 12B น้ำสูงมากว่า 20 ซม.
- เขตส่งออกน้ำยังท่วมสูง
- เขตประกอบการเสรี เข้าได้เฉพาะยกสูง
- ท้ายยนิคมฯ ฝั่งแพรกษา มอเตอร์ไซค์งดผ่าน (ในรูป)
คาด 1-2 วันระบายน้ำท่วมคลี่คลาย
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.บางบ่อ อ.บางพลี อ.บางเสาธง และอ.เมืองสมุทรปราการ ระดับน้ำสูงประมาณ 20–30 ซม. ส่วนที่ลุ่มต่ำระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 ซม.
ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วันนี้
ภาพ:กรมชลประทาน
ขณะนี้ ทางกรมชลประทาน สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีก 6 เครื่อง บริเวณสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร เพื่อเสริมศักยภาพในการระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทยให้เร็วขึ้นพร้อมทั้งยังเดินเครื่องสูบน้ำบริเวณแนวคลองชายทะเล 9 แห่ง เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้ได้ไม่น้อยกว่าวันละ 20 ล้านลบ.ม.
ส่วนน้ำที่ไหลจากพื้นที่ตอนบนผ่านคลองพระองค์ไชยานุชิต ได้ประสานให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ให้ตัดยอดน้ำบางส่วนไปลงแม่น้ำบางปะกงที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่จ.สมุทรปราการ
ประสานงานกับปภ.สมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง
ฝนตก-น้ำทะเลหนุนสูง
สำหรับน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปูครั้งนี้ พบมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวนมาก ถูกน้ำท่วมขัง หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 02.00 น.วันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงช่วงเช้า โดยจุดที่มีน้ำท่วมขังสูงสุด อยู่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมส่งออก ตั้งแต่ซอย 2-11 ระดับน้ำสูง ตั้งแต่ 50 ซม.จนถึง 1 เมตร เช่นเดียวกับวัสดุ อุปกรณ์ ภายในโรงงานบางส่วนลอยน้ำ ได้รับความเสียหาย
เนื่องจากสภาพพื้นที่ต่ำกว่าถนนสายหลัก คล้ายแอ่งกระทะ จึงทำให้น้ำท่วมขัง ประกอบกับช่วงนี้น้ำทะเลหนุนสูง จึงมีอุปสรรคต่อการระบายน้ำออก และยังทำให้พื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของประชาชนมีน้ำท่วมขัง
เร่งระบายน้ำ-อพยพคนตกค้าง
นายทรงศักดิ์ ชื่นตา ผู้ช่วย ผอ.นิคมอุตสาหกรรมบางปู กล่าวว่า ขณะนี้เร่งสูบน้ำออก และถ้าไม่มีฝนตกลงมาก็น่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ ตอนนี้มีเครื่องสูบน้ำ 11 เครื่อง สามารถสูบน้ำออกได้ 70,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ล่าสุดระดับน้ำยังคงทรงตัว เนื่องจากระดับน้ำในคลองชลประทาน เลียบถนนสุขุมวิท จุดเชื่อมต่อร่องน้ำด้านนอกที่สูงกว่า ทำให้น้ำระบายออกได้ช้า รวมทั้งสถานีสูบน้ำตำหรุ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ที่เดินเครื่องเร่งสูบน้ำ ซึ่งระบายมาจากนิคมอุตสาหกรรมบางปู ไหลมาบรรจบ แต่ก็มีน้ำทะเลหนุนสูง
ทั้งนี้นิคมอุตสาหกรรมบางปู มีโรงงานอยู่ประมาณ 300 แห่ง และมีพนักงานที่ทำงานในช่วงเวลากลางคืนด้วย หลังฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมไม่สามารถออกมาได้ทัน ทำให้รถยนต์ รถจักรยานยนต์จมน้ำจำนวนมาก ยังไม่สามารถเข้าไปประเมินความเสียหายได้
ระดับน้ำที่ท่วมขังนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ยังคงทรงตัว เจ้าหน้าที่ต้องนำรถบรรทุกเข้าช่วยเหลือนำประชาชนเข้า-ออก ภายในนิคมฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร#วันใหม่ไทยพีบีเอส #ThaiPBS #น้ำท่วม pic.twitter.com/YbhMGU3sFN
— Thai PBS (@ThaiPBS) August 29, 2021
เร่งอพยพชาวบ้านรอบชุมชน-บ่อปลาน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ลงสำรวจหมู่บ้านชลเทพ ถ.เทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ พบว่าระดับน้ำยังสูงในระดับเลยเข่า ชาวบ้านในหมู่บ้านรอให้ระดับน้ำลดลง และต้องการให้เร่งระบายน้ำออกโดยเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ รับ-ส่ง ประชาชน และที่ยังต้องเข้าออกในหมู่บ้าน ระดับยังท่วมขัง รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ และประชาชนบางส่วนที่ก็ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านเรือนยังไม่ออกไปจุดศูนย์อพยพ
นอกจากนี้ จากการสำรวจประตูระบายน้ำที่อยู่ติดกับคลองหลังหมู่บ้าน ระดับน้ำยังคงทรงตัว เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ติดกับคลองบัวคลี่ที่เชื่อมกับคลองสำโรง เมื่อน้ำทะเลหนุนสูง ก็จะผ่านมาทางคลองสำโรงก่อนแล้วก็ไหลเข้ามาที่คลองบัวคลี่ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปช้าลง เพราะต้องระบายน้ำทะเลที่หนุนสูงขึ้นมาออกไปทางคลองสุวรรณภูมิ ให้หมดก่อนจึงจะระบายน้ำทางนี้
หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเก่า เป็นพื้นที่ต่ำ เมื่อก่อนเป็นที่รับน้ำเป็นแอ่งทั้งหมด พื้นที่อื่นสูงกว่าหมู่บ้านเป็นท้องกระทะของหมู่บ้าน
ขณะที่ยังพบว่าพื้นที่ต.บางปลาอ.บางพลี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลา ได้รับความเดือดร้อน หลังฝนตกหนัก น้ำท่วมบ่อเลี้ยงปลา ระดับน้ำในคลองเก้า สูง ปลาจึงหนีออกจากบ่อ