ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"หมอธีระ" ห่วงคลายล็อกโควิดซ้ำรอยปีใหม่-ขันน็อตปรับรูปแบบชีวิต

สังคม
10 ก.ย. 64
12:03
338
Logo Thai PBS
"หมอธีระ" ห่วงคลายล็อกโควิดซ้ำรอยปีใหม่-ขันน็อตปรับรูปแบบชีวิต
"หมอธีระ" โพสต์เตือนรอผลลัพธ์หลังคลายล็อก และเปิดกิจกรรมการท่องเที่ยว หวั่นไตรมาสสุดท้ายเป็นช่วงการระบาดรุนแรงขึ้นอีกรอบซ้ำรอยปีใหม่ แนะรัฐบาลทบทวนนโยบาย ดูตัวเลขรายวันยังติดเชื้อหลักหมื่น วอนขันน็อตปรับปรุงรูปแบบการใช้ชีวิต

วันนี้ (10 ก.ย.2564) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซ บุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ดังนี้ อิหร่าน แซงอาร์เจนติน่าขึ้นมาเป็นอันดับ 8 ของโลกแล้ว เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ทั่วโลกติดเพิ่ม 594,845 คน รวมแล้ว 223,988,471 คน ตายเพิ่มอีก 9,121 คน ยอดตายรวม 4,619,578 คน

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อินเดีย บราซิล และอิหร่าน

สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 155,171 คน รวม 41,555,546 คน ตายเพิ่ม 1,889 คน ยอดเสียชีวิตรวม 674,507 คน อัตราตาย 1.6%

อินเดีย ติดเพิ่ม 34,310 คน รวม 33,173,166 คน ตายเพิ่ม 201 คน ยอดเสียชีวิตรวม 441,983 คน อัตราตาย 1.3%

บราซิล ติดเพิ่ม 30,891 คน รวม 20,958,899 คน ตายเพิ่ม 747 คน ยอดเสียชีวิตรวม 585,205 คน อัตราตาย 2.8%

สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 38,013 คน ยอดรวม 7,132,072 คน ตายเพิ่ม 167 คน ยอดเสียชีวิตรวม 133,841 คน อัตราตาย 1.9%

รัสเซีย ติดเพิ่ม 18,380 คน รวม 7,084,284 คน ตายเพิ่ม 794 คน ยอดเสียชีวิตรวม 190,376 คน อัตราตาย 2.7%

แนวโน้มการติดเชื้อยังหลักพันถึงหมื่น

นพ.ธีระ ระบุว่า ส่วนอันดับ 6-10 เป็นฝรั่งเศส ตุรกี อิหร่าน อาร์เจนติน่า และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น ขณะที่แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 89.94 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่องฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และญี่ปุ่น ติดเพิ่มกันหลักหมื่น

ส่วนเมียนมาอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีนและนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

ห่วงคลายล็อก 3 เดือนสุดท้ายเสี่ยงซ้ำรอยปีใหม่ 

นพ.ธีระ ระบุอีกว่า สำหรับสถานการณ์ไทย เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ทั้งจำนวนติดเชื้อใหม่ และจำนวนเสียชีวิตเพิ่ม สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก จำนวนผู้ป่วยรุนแรงและวิกฤติยังมีมากเป็นอันดับ 7 ของโลกผลลัพธ์ของกล่องทราย และพื้นที่ 7+7 เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพื้นที่กล่องทราย และพื้นที่ใกล้เคียง จะมีธรรมชาติที่เราพอจะใช้คาดการณ์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น หากขยายไปดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ในระยะเวลาถัดจากนี้ไป

จำนวนการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นชัดเจน หลังจากดำเนินการไปตั้งแต่ 4-8 สัปดาห์ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการระบาดทวีความรุนแรงขึ้นนั้นคือ การมีคนจำนวนมากขึ้น เคลื่อนไหวกันมากขึ้นในพื้นที่กิจการกิจกรรมต่างๆ นำมาซึ่งการพบปะติดต่อกัน สัมผัสกัน ใกล้กัน บ่อยครั้งขึ้น และนานขึ้น

เหล่านี้คือสิ่งที่เป็นตัว catalyst เร่งปฏิกิริยาของการแพร่เชื้อติดเชื้อที่มีอยู่ในชุมชน ดังนั้นหากดู ไทม์ไลน์ของนโยบายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ขยายพื้นที่ไปอีก 5 จังหวัด ก็คงน่าเป็นห่วงยิ่งนัก เพราะธรรมชาติของการระบาดอันเป็นผลลัพธ์จากกล่องทรายและ 7+7 นั้นเป็นตัวสะท้อนให้เห็นอยู่แล้ว

ยิ่งหากสถานการณ์ระบาดทั่วประเทศยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และแต่ละวันยังติดกันหลักหมื่นคน ติดท็อปเท็นของโลก การเปิดกิจการกิจกรรมดังกล่าวคงเป็นไปได้เพียงระยะสั้น และจะเกิดผลกระทบตามมาในเวลาไม่นาน

แนะทบทวนนโยบาย-ขันน็อตปรับรูปแบบการใช้ชีวิต

สิ่งที่ควรทำคือ การทบทวนนโยบายดังกล่าว และหันมากดการระบาดให้ดี ใช้เวลาช่วงที่กดการระบาดนั้น ไปขันน็อต ปรับปรุงรูปแบบการใช้ชีวิต การประกอบกิจการกิจกรรมค้าขายและบริการต่างๆ ให้ปลอดภัยไปกว่าที่มีอยู่

มิฉะนั้นไตรมาสสุดท้ายของปี ปลายปีเป็นช่วงเทศกาลต่อเนื่องไปถึงปีใหม่ อาจซ้ำรอยกับปีที่ผ่านมา

แต่อย่าลืมว่าศึกนี้มายาวนานมาก ทรัพยากรของทุกคนร่อยหรอไปมาก หากระบาดทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจะมากมาย ทั้งเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม “ก้าวเมื่อควรจะก้าว หากเร่งรีบก้าวตอนที่ฝนตกพื้นลื่นรองเท้าที่ใส่ยังไม่เหมาะสม จะพลาดหกล้มเจ็บหนักได้ ด้วยรักและห่วงใย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง