โผล่อีก "ลูกวัวแดง" ป่าอ่างฤาไน ติดลัมปี สกินตาย

วันนี้ (24 ก.ย.2564) นายอนุชา กระจายศรี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้รับรายงานจากน.ส.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) จ.ฉะเชิงเทรา รายงานว่าได้รับการประสานจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน แจ้งว่ามีลูกวัวแดงตาย จึงเข้าทำการตรวจสอบพบลูกวัวแดง ตัวเมียอายุประมาณ 5 เดือน น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม

จากการตรวจสอบพบผิวหนังทั่วลำตัวมีตุ่ม และแผลตกสะเก็ด จำนวนมาก รอยโรคที่ผิวหนัง สงสัยว่าเป็นโรคลัมปี สกิน จึงทำการผ่าพิสูจน์ซาก

ผลการผ่าซากปรากฏผล ผิวหนัง พบตุ่มแผลหลุมบนชั้นผิวหนัง เส้นผ่านศูนย์กลาง ขนาด 1-3 ซม.กระจายทั่วร่างกาย นอกจากนี้ต่อมน้ำเหลือง พบต่อมน้ำเหลืองบริเวณโคนขาหนีบด้านซ้าย ขนาดยาว 7 ซม. โตกว่าข้างขวา ขนาดยาว 3 ซม. ส่วนอวัยวะภายใน ปอด เนื้อปอดบางส่วนมีการคั่งเลือด และพบม้าม มีจุดเลือดออกขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วขอบม้าม

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายอนุชา กล่าวว่า สัตวแพทย์ ได้เก็บตัวอย่างเลือด และชิ้นเนื้อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจพิสูจน์ยืนยันผลโรคลัมปี สกิน และโรคสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

อ่านข่าวเพิ่ม ผลแล็บชี้กระทิงกุยบุรี ติด "ลัมปี สกิน" ตาย 1 ตัว

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

พบมีรายงานโรคลัมปี สกินในสัตว์ป่า 3 แห่ง

ที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าพันธุ์พืช ได้วางมาตรการการป้องกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้โรคลัมปีสกินระบาดลุกลามสู่สัตว์ป่า โดยสั่งการทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่ในช่วงตั้งแต่ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ผ่านมาเริ่มมีรายงานหลายพื้นที่แล้ว

โดยเริ่มจากกระทิงที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตายจำนวน 1 ตัว จากนั้นพบวัวแดง ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งมีการถ่ายภาพยืนยันอย่างน้อย 2-4 ตัว แต่ยังไม่มีรายงานการตาย และล่าสุดที่เขาอ่างฤาไน พบเป็นลูกวัวแดงตาย 1 ตัว

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

สำหรับโรคลัมปี สกิน เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สำคัญในโค กระบือ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดสู่คนได้ เกิดจากเชื้อไวรัส