เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2564 เพจเฟซบุ๊ก กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่ข้อความ ระบุว่า พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนให้ประชาชนได้รู้เท่าทันอาชญากรรม ในรูปแบบของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือหน่วยงานราชการโทรศัพท์หาผู้เสียหาย แจ้งว่าบัญชีธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้โอนเงินในบัญชีทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่โอนเงินมาจะถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด อาชญากรรมรูปแบบดังกล่าวได้มีวิวัฒนาการที่ทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยฉวยโอกาสจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นำคลิปวิดีโอจากการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งสวมใส่หน้ากากอนามัย มาตัดต่อใส่เสียงของผู้ก่อเหตุ เพื่อทำการข่มขู่ผู้เสียหาย จนผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง และโอนเงินจำนวนมากให้กับคนร้าย
ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ก่อเหตุใช้คลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปตัดต่อใส่เสียงเพื่อไปใช้หลอกลวง ข่มขู่ผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ขอตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กับคนร้าย ซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้แล้วที่ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก และอยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแจ้งประชาชนว่า ธนาคาร และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ เพราะการตรวจสอบบัญชีธนาคารจะดูจากรายการเดินบัญชีและเส้นทางการเงินเท่านั้น หรือหากมีความจำเป็นเจ้าหน้าที่ก็อาจอาศัยอำนาจในการอายัดเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าว
ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อหากมีผู้ใดอ้างว่าต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เนื่องจากไม่เป็นความจริง และหากพี่น้องประชาชนพบเหตุการณ์ดังกล่าว แจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง