ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สู้ชีวิต “ไรเดอร์พ่อลูกอ่อน” ประดิษฐ์กล่องใส่ลูก พาส่งอาหารลูกค้า

ภูมิภาค
23 พ.ย. 64
18:21
2,955
Logo Thai PBS
สู้ชีวิต “ไรเดอร์พ่อลูกอ่อน” ประดิษฐ์กล่องใส่ลูก พาส่งอาหารลูกค้า
เปิดใจหนุ่มไรเดอร์พ่อลูกอ่อน จ.สุรินทร์ หอบลูกน้อยวัย 1ขวบ 4 เดือน สู้ชีวิตไม่ยอมแพ้ ประดิษฐ์กล่องใส่ลูกใส่คอกหลังมอเตอร์ไซค์ให้ลูกนอน พร้อมพาขี่รถส่งอาหารไปด้วยกันทุกที่ ยืนยันไม่ขอเปิดรับบริจาค

กรณีโซเชียลแชร์คลิปภาพของไรเดอร์พ่อลูกอ่อนคนหนึ่ง ที่มีการดัดแปลงกล่องคอกกั้นท้ายรถมอเตอร์ไซด์เป็นที่นอนส่วนด้านหลังเป็นกล่องใส่สำหรับส่งอาหาร ซึ่งชาวเน็ตห่วงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็ก พร้อมทั้งระบุว่ารถก็เยอะสงสารเห็นใจมากๆ หัวอกพ่อคนหนึ่งที่รักลูกถึงเพียงนี้ ช่วยได้เท่าที่ช่วยนะพี่ขอให้พี่สู้ต่อไป#คนลำบากกว่าเราก็มีนี้แหละชีวิต #ความรักของพ่อ”

วันนี้ (23 พ.ย.2564) ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่บริเวณบ้านถนน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนายพงษ์สิทธิ์ โกรดประโคน อายุ 30 ปี ไรเดอร์พ่อลูกอ่อน และนางวันเพ็ญ ร่องน้อย อายุ 30 ปี ภรรยา อาชีพพนักงานบริษัทรถแห่งหนึ่ง 

พงษ์สิทธิ์ บอกว่า ประดิษฐ์กล่องติดรถจักรยานยนต์ขึ้นมาใส่ลูกชายคนเล็กจะนำลูกชายคนเล็กวัย 1 ขวบ 4 เดือนไปส่งอาหารด้วย เพราะไม่มีใครดูแลลูกชาย เพราะภรรยาต้องทำงานเพื่อหารายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากมีลูกชายวัย 4 ขวบอีก 1 คน

พอมีออร์เดอร์ส่งอาหารเข้ามา ก็จะพาลูกชายไปด้วย ในกล่องจะมีนมมาเก็บไว้ถ้าลูกหิว โชคดีที่เเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ตอนรถขับไปจะนอนหลับ ดูการ์ตูนที่ตนเปิดไว้ให้ดูในกล่องนอน ส่วนเรื่อง COVID-19 ใส่แมสก์ให้ลูกแต่ลูกดึงออก

ไรเดอร์พ่อลูกอ่อน บอกว่า ตอนเย็นก็จะรับพี่เขา และตัวเล็กไปส่งแม่รับช่วงต่ออีกที จากนั้นก็จะรีบวิ่งหาออร์เดอร์ส่งลูกค้า ช่วงเช้าจะวิ่งตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึงช่วงเย็นจะได้เพียงวันละ 100-200 บาท ส่วนรอบเย็นวิ่งรับออเดอร์ลูกค้าได้จนถึงประมาณเที่ยงคืน

ถามว่าสงสารลูกไหม คนเป็นพ่อก็ต้องสงสาร บางทีน้ำตาไหล แต่ก็วิ่งรถไม่เร็ววิ่งแค่ 20-30 กม.ต่อชั่วโมงเท่านั้น คิดแค่ว่าขอหาเงินแค่ค่านม ค่าแพมเพิสลูก จะระวังมากเรื่องขับรถ

 

2 แรงทำงานหาเลี้ยงปากท้อง-ไม่ขอรับบริจาค 

พงษ์สิทธิ์ บอกกรณีที่มีผู้หวังดีมาถ่ายรูปแล้วเอาภาพไปโพสต์ เห็นแต่ข้างหลัง แต่ก็ยังมีคนติดต่อเข้ามาจะบริจาค แต่ตนไม่ได้เดือดร้อนมากมาย แค่อยากให้ลูกค้าโทรเรียกใช้บริการส่งอาหารมากกว่า ส่วนแม่เด็กทำงานอยู่ที่บริษัทรถแห่งหนึ่ง ถ้าวันไหนหยุดก็จะมาช่วยเลี้ยงลูกด้วยไม่ฝากคนอื่นเพราะมีเรื่องค่าใช้จ่าย 3,000-4,000 บาทต่อเดือน ทุกอย่างเป็นเงินหมด ต้องพึ่งตัวเอง

อยากบอกผู้หวังดี ผู้มีน้ำใจว่าตนไม่ได้เดือดร้อนมากมาย แค่อยากให้ลูกค้าโทรเรียกใช้บริการมากกว่าพร้อมกับตนไม่ขอเปิดรับบริจาคหวั่นเกิดดรามา

นางวันเพ็ญ  บอกว่า อยู่กินกับนายพงษ์สิทธิ์มากว่า 10 ปี ยอมรับว่าความรู้สึกว่าห่วงลูก เห็นเขาแล้วน้ำตาไหล สงสารเขาและลูกเหมือนกันที่ต้องหอบกันไป อยากออกจากงานมาช่วยแต่ว่าภาระมันเยอะค่าใช้จ่ายมันมีก็ไม่พอ จึงต้องช่วยกันหาเงินมาเลี้ยงลูก

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง