วันนี้ (7 ธ.ค.2564) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเดินลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้ง จ.สตูล และสงขลา ครอบคลุมทั้ง 5 อำเภอ รวมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อสกัดการลักลอบเข้าพื้นที่ผิดกฎหมายตามพรมแดนธรรมชาติและไม่ผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลการคุมเข้มชายแดนตั้งแต่เดือน ต.ค.- 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานไทยที่ลักลอบออกมา 16 ครั้ง มีผู้ต้องหา 32 คน มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าพื้นที่ 20 ครั้ง ผู้ต้องหา 114 คน
ด้าน นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา เน้นย้ำให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เฝ้ารระวัง ติดตามอาการ ในกลุ่มผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ผ่านทางด่านพรมแดนอย่างเข้มข้นอีกชั้น แม้ว่าในช่วงที่เดินทางเข้ามาจะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อและการกักตัวแล้ว เพื่อให้มีความมั่นใจว่า ไม่มีเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน เข้ามากับคนกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเชื้อโอมิครอนในพื้นที่
เปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ขนส่งสินค้า
บรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนเบตง จ.ยะลา ที่เชื่อมระหว่างด่านบูกิตบือราปิต รัฐเคดาห์ มาเลเซีย ซึ่งเปิดด่านพรมแดนวันแรกเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) อนุญาตให้เฉพาะการขนส่งสินค้าอุปโภคผ่านเข้าออก จึงมีรถบรรทุกสินค้าจากมาเลเซียเข้ามาต่อเนื่อง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำด่านศุลกากรเบตง กล่าวว่า การเปิดด่านพรมแดน เพื่อขนส่งสินค้ายังต้องทำภายใต้มาตรการตรวจคัดกรองโควิด-19 ที่เข้มงวด โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนที่กำลังเป็นเฝ้าระวัง จึงกำหนดให้มีผู้ขับรถบรรทุกและผู้ติดตามไม่เกิน 2 คน หลังคัดกรองจะมีสายรัดข้อมือแสดงสัญลักษณ์ตรวจคัดกรอง ทั้งการฉีดวัคซีนครบโดส มีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบไม่เกิน 30 วัน อนุญาตให้อยู่ในพื้นที่เบตงไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง ไม่อนุญาตให้เข้าเขตชุมชนเด็ดขาด