ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์คลิปวิดีโอเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นชายหลายสิบคน สวมชุดคล้ายกับนักเรียน นักศึกษาสายอาชีพ ยกพวกวิ่งไล่ตีกัน บริเวณลาดจอดรถจักรยานยนต์ประตูทางเข้า-ออกฝั่งโรงภาพยนตร์ของห้างสรรพสินค้าเเห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ไปจนถึงบริเวณด้านหน้าของห้างฯ ผู้เห็นเหตุการณ์คาดว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว พยายามวิ่งไล่ทำร้ายกัน หลังจากออกมาจากการรับชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจบ ทำให้ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย และอยู่บริเวณดังกล่าว พากันแตกตื่น และวิ่งหลบหนี เพราะเกรงว่าจะถูกลูกหลง
ด้าน พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 10 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา มีกลุ่มวัยรุ่นวิ่งไล่ และพยายามทำร้ายร่างกายกัน บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเเห่งหนึ่งหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่สายตรวจและชุดสืบสวนได้เร่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า กลุ่มวัยรุ่นได้พากันแยกย้ายกันไปแล้ว
จากการให้การของเจ้าหน้าที่ รปภ.และผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นได้วิ่งไล่กัน แต่ยังไม่ได้ทำร้ายร่างกายกัน ไม่มีผู้บาดเจ็บ และยังไม่มีผู้เข้ามาแจ้งความ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากความคึกคะนอง และเกิดการเขม่นกัน ซึ่งทาง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จะได้จัดกำลังสายตรวจเพิ่มรอบการออกตรวจบริเวณดังกล่าวให้มากขึ้น
บช.น.สั่ง 88 สน.ส่งสายตรวจป้องปรามเหตุวัยรุ่นตีกัน
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวยอมรับว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มเยาวชน และนักเรียนอาชีวะเพิ่มมากขึ้น ปัจจัยมาจากการผ่อนคลายมาตรการ การเปิดการเรียนการสอนแบบปกติ และการเข้าฉายของภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ทางการข่าวทราบว่า จะมีการก่อเหตุรุนแรง บช.น.สั่งการให้ 88 สน. จัดกำลังตำรวจสายตรวจ ลงพื้นที่ ตรวจตราป้องกันเหตุ ตามสถานที่เสี่ยงต่อการยกพวกตีกัน ของสถานบันต่าง ๆ และบริเวณหน้าโรงภาพยนต์ เพราะมีการประกาศให้สวมเครื่องแบบ หรือเสื้อช็อปของสถาบันไปชมภาพยนตร์
ถ้าเกิดความรุนแรง ตำรวจพร้อมเข้าระงับเหตุทันที ทั้งยังได้ประสานข้อมูลกับอาจารย์ กลุ่มผู้ปกครอง และศิษย์เก่า เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเคลื่อนไหวของนักเรียนก่อนจะเกิดเหตุความรุนแรงขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญชี้หนังไม่ใช่ปัจจัยเดียวของความรุนแรง
ด้าน นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสุขภาพจิต แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า แม้ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจะมีความตั้งใจดีในการสะท้อนปัญหา แต่เนื้อหาของภาพยนตร์อาจมีระดับความรุนแรงที่สูงเกิดไป เมื่อดูเรตติ้งแล้วพบว่าเหมาะสำหรับบุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ดังนั้น จึงอาจเกิดเป็นความเสี่ยงสำหรับกลุ่มเปราะบางเมื่อภาพยนตร์มีความรุนแรงแฝงอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่มีความรุนแรง การศึกษาทางจิตวิทยา ภาพยนตร์ที่มีความรุนแรงก็มีส่วนกระตุ้นความรุนแรงในคนที่เปราะบาง ลดความยับยั้งชั่งใจ ทำให้เกิดความอยากเลียนแบบ แต่เมื่อมองปัญหานี้จะโทษภาพยนตร์เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความรุนแรงเพียงอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งสำคัญไม่ใช่การโทษภาพยนตร์หรือโทษเยาวชน แต่เป็นการที่ทุกฝ่ายร่วมช่วยกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม และเตรียมพร้อมช่วยกันป้องกันความรุนแรง