เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2564 เว็บไซต์ผู้พัฒนา สินทรัพย์ดิจิทัล สมเด็จคอยน์ ซึ่งเขียนรายงานเงื่อนไขโครงการลงทุน โดยอ้างว่า เป็นการระดมเงิน และปันเงินบางส่วนบริจาควัด ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับสินทรัพย์นี้ คล้ายการได้รับพระเครื่อง จึงตั้งชื่อเหรียญว่า "สมเด็จคอยน์"
ซึ่งเคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ หลังวัดป่ามหาญาณ ทำหนังสือสอบถามมายัง ก.ล.ต.ว่า สมเด็จคอยน์ ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เข้าข่ายเป็นเหรียญสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ประเภท ซึ่งห้ามมิให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นำมาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ตามข้อ 39/1 ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต.ที่ กธ. 19/2561 เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ค "พ่อบ้านคริปโต" โพสต์ภาพพิธีปลุกเสก "สมเด็จคอยน์" เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2564
ขณะที่เว็บไซต์ สมเด็จคอยน์ ระบุว่า ทีมงานนักพัฒนาเหรียญ ได้ขอให้หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม แห่งวัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ อธิษฐานจิต ปลุกเสกเหรียญ สมเด็จคอยน์ ที่มีจำนวน 66,186,727 เหรียญ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้ผู้ที่ถือเหรียญแล้ว
ปัจจุบัน สมเด็จคอยน์ ถูกนำขึ้นซื้อขาย ในตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Exchange ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกงและเอสโตเนีย เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2564 โดยมีผู้ใช้งานกว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เคยเตือนว่าเงื่อนไขการซื้อขายแลกเปลี่ยนสมเด็จคอยน์ โดยอ้างว่าจะปันเงินระดมทุนบางส่วนไปบริจาค อาจเข้าข่ายจูงใจมากกว่าลงทุน
หากจะเข้ามาซื้อขายในกระดานสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนด listing rule ของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง