วันนี้ (17 ธ.ค.2564) เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุความวุ่นวายอีกครั้งที่เรือนจำกระบี่ หลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหาก่อจลาจล ตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดพบมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากเรือนจำ และมีเสียงดังคล้ายกระสุนปืนดังขึ้นเป็นระยะ คาดว่าจะมีการใช้กระสุนยาง เพื่อสกัดการจลาจล
ขณะที่บรรยากาศด้านนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรึงกำลังนอกเรือนจำทั้งตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ปิดล้อมจำนวนมาก มีการเตรียมรถดับเพลิงระดมมารองรับสถานการณ์ รวมทั้งรถพยาบาล
มีรายงานว่าการจุดไฟเผาเรือนจำในช่วงเย็น เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ให้แกนนำขึ้นเรือนนอน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปตรวจ ATK เพื่อคัดกรองโควิด-19 และแยกผู้ต้องขัง ออกไปยังเรือนจำภูเก็ตและเรือนจำอื่นๆ ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้
เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และตำรวจ เตรียมเข้าสลายการจลาจลโดยนำโดรนขึ้นไปสังเกตการณ์ ขณะที่มีการยืนยันว่าสามารถเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังออกไปแล้ว 300 คน และเหลืออีก 1,800 คนที่ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ไทม์ไลน์ 20 ชั่วโมงจลาจลเรือนจำกระบี่
ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่รายงานว่า ทางแกนนำ ผู้ต้องขังที่อยู่ภายในเรือนจำ ระบุว่ายังไม่พอใจ และยังไม่มีการเจรจาตกลง เหมือนกับช่วงแรกที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ส่วนบริเวณถนนหน้าเรือนจำจังหวัดกระบี่ ได้ปิดการจราจร พร้อมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนขยับแนวออกมา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ และฝ่ายปกครอง เข้าไปในพื้นที่เรือนจำ แต่ยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการใดบ้าง คาดว่าจะพยายามตรวจหาเชื้อด้วย ATK ให้เสร็จสิ้น เพื่อลดความแออัดของผู้ต้องขัง
เวลา 18.20 น. เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องขังชายในเรือนจำ จ.กระบี่ ออกมานอกเรือนจำ จำนวน 7 คน โดยยังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใด หลังเกิดเพลิงลุกไหม้อีกครั้งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ล่าสุดเพลิงยังไม่สงบ ทั้งนี้มีรายงานผู้ต้องขังบาดเจ็บ 14 คน สาเหตุมาจากการใช้กระสุนยางสลายความวุ่นวายในเรือนจำ
ทั้งนี้นายอายุตม์ สินธพพันธ์ุ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้บินด่วนลงพื้นที่ มาบัญชาการด้วยตัวเอง ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา
เวลา 19.00 น.เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายแกนนำได้แล้ว 20 คนนำตัวใส่รถควบคุมคันละ 5-6 คนต่อคัน โดยยังต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากในกลุ่มนี้มีผู้ต้องขังชายติดโควิด-19 (กลุ่มสีเขียว) 200 คน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าใช้ ATK ตรวจคัดกรองอีก 1,800 คนที่เหลืออยู่เพื่อคัดกรองแยกออกไปยังเรือนจำอื่นๆ
ส่วนความเสียหายเกิดขึ้นในเรือนจำกระบี่ ควบคุมสถานการณ์ได้บางส่วนหลังจากคุกรุ่นมานานเกือบ 1 วัน จากการสำรวจพบว่ามีความเสียหาย จากการเผาบริเวณโรงเรือนนอน ร้านค้า ที่นอน และจุดอื่นๆ
ต่อมาเวลา 19.40 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมแกนนำผู้ต้องขังชายได้ 31 คน หลังก่อเหตุจลาจลเรือนจำจังหวัดกระบี่ รอบ 2 ล่าสุดเพลิงสงบแล้ว คาดว่าจะเคลื่อนย้ายผู้ต้องขัง 1,800 คน ไปยังเรือนจำใกล้เคียงและเข้าเคลียร์พื้นที่ในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากแกนนำผู้ต้องขังพยายามหลบหนีขณะตรวจหาเชื้อ COVID-19
พบ 4 เรือนจำอยู่ระหว่างคุมการระบาด
ขณะที่นายอยุตม์ กล่าวว่า วันนี้พบการแพร่ระบาด COVID-19 เพิ่มในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ส่วนเรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์ พ้นจากการระบาดซ้ำแล้ว จึงมีสถานะมีเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 128 แห่ง และเรือนจำสีแดง 14 แห่ง ในจำนวนดังกล่าว เป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 4 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดกระบี่ ทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก และทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ขณะที่มีเรือนจำอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค 10 แห่งที่จะทยอยพ้นจากการระบาด
นอกจากนี้ มีผู้ต้องขังที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม หรือครบโดสแล้ว จำนวน 260,771 คน หรือ 92.6% ของจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานทั้งหมด 281,535 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ต้องขังเรือนจำกระบี่พังเรือนนอน ไม่พอใจการจัดการผู้ป่วยโควิด