วันนี้ (26 ม.ค.2565) นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความในคดีพร้อมทีมทนายสิทธิมนุษยชนและภาคีเครือข่ายครอบครัวของนายชัยภูมิ ป่าแส เดินทางมาที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เพื่อรับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีนางนาปอย ป่าแส ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 จากเหตุการณ์ที่ทหารใช้อาวุธปืนยิงนายชัยภูมิ นักกิจกรรมเยาวชนผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองและคนไร้สัญชาติเสียชีวิต เมื่อ 17 มี.ค.2560 บริเวณด่านบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
นายรัษฎา เปิดเผยหลังเข้ารับฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ว่า ศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือ ยกฟ้อง พร้อมมีคำวินิจฉัยว่า ทหารใช้ปืนยิงนายชัยภูมิ เพื่อป้องกันตัวเองโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว อีกทั้งตำแหน่งที่ทหารยิงนายชัยภูมิ คือ ต้นแขนซ้าย เป็นตำแหน่งยิงที่บอกเจตนาว่า ไม่ได้ประสงค์แก่ชีวิต
ส่วนผลคำพิพากษา ได้แจ้งแก่ครอบครัวนายชัยภูมิแล้ว และจะหารืออีกครั้ง เรื่องการต่อสู้คดีในชั้นฎีกา โดยมีเวลาในการยื่นขอให้ศาลอนุญาตฎีกาภายใน 1 เดือน
ขณะที่นางอังคณา นีละไพจิตร ได้เข้าร่วมรับฟังคำพิพากษา ให้ความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยในประเด็นเรื่องดีเอ็นเอ ที่ไม่มีการนำขึ้นพิจารณา ซึ่งการตรวจพิสูจน์ เนื่องจาก ไม่พบดีเอ็นเอของนายชัยภูมิบนด้ามจับของก้านระเบิด ที่ทหารกล่าวอ้างว่า นายชัยภูมิ จะปาใส่เจ้าหน้าที่ โดยศาลรับฟังเพียงคำให้การของพยานบุคคล แต่ก็เคารพคำตัดสินของศาล
ส่วนครอบครัวของนายชัยภูมิ ไม่ได้เข้าร่วมรับฟังคำพิพากษา เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19