สธ.ชี้ไม่เกินคาด "โควิดรายวัน" พลิกแตะหมื่นจับตากทม.-ปริมณฑล

สธ.ระบุผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นแตะหลักหมื่นวันนี้ อยู่ในการคาดการณ์ จับตากทม.-ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยวมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ผู้ป่วยอาการหนัก เสียชีวิตยังคงตัว ปลัด สธ.ยันไม่ปกปิดตัวเลข ส่วนเตียงรักษามีเพียงพอ

วันนี้ (4 ก.พ.2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โควิด 19 ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,909 คน รักษาหายเพิ่ม 7,827 คน อยู่ระหว่างการรักษา 86,473 คน จำนวนนี้มีอาการหนัก 516 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 105 คน ส่วนผู้เสียชีวิตรายงาน 22 คน อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ 0.22%

ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอยู่ในการคาดการณ์ พื้นที่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คือกทม.-ปริมณฑล จังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ผู้ป่วยอาการหนัก เสียชีวิตยังมีแนวโน้มคงตัว เตียงรักษาพยาบาลมีเพียงพอ ยืนยันว่าไม่มีการปกปิดตกแต่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายงานตามระบบ

ปลัดสธ.กล่าวอีกว่า สำหรับการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็นตลาดและกิจกรรมการรวมกลุ่มคน ที่มีการรับประทานอาหารและดื่มสุรา รวมถึงสถานที่ทำงาน สถานประกอบการ โรงงาน โรงเรียน และค่ายทหาร ทั้งนี้ ยังต้องเน้นมาตรการป้องกันควบคุมโรค ทั้ง VUCA โดยฉีดวัคซีนตามกำหนด ป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา สถานประกอบการดำเนินมาตรการ COVID Free Setting และตรวจ ATK เป็นประจำ

ดังนั้นต้องขอย้ำถึงข้อจำกัดของชุดตรวจ ATK เพราะแม้ผลตรวจจะเป็นลบ แต่อาจยังอยู่ในช่วงที่เชื้อไม่มากพอที่จะตรวจเจอ ดังน้้นแม้จะมีการตรวจ ATK ก่อนเข้างานก็ไม่ควรละเลยมาตรการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีการถอดหน้ากาก รับประทาน และดื่มกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงแพร่โรคได้มากขึ้น

พลิกแตะหลักหมื่นไม่เกินความคาดหมาย

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตัวเลขการติดเชื้อช่วงต้นปีมีการขึ้นไปตามเส้นสีเทาที่คาดการณ์ว่าจะมีการป่วยสูงสุด แต่หลังมีมาตรการทำให้เส้นสีน้ำเงินน้อยกว่าเส้นสีเขียว

วันนี้ 9,909 กว่าเข้าใกล้เส้นสีเขียว แต่ยังอยู่ในตัวเลขการคาดหมาย ใกล้แตะหลักหมื่น พบว่าอายุ 30-49 ปี มีอัตราติดเชื้อสูงที่สุด 32.9% ส่วนที่กังวลการติดเชื้อในเด็ก พบอายุ 0-9 ปีเพียง 10.3%

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ปัจจัยเสี่ยงคือ กิจกรรมที่พบปะกัน ร่วมงานสังสรรค์ที่เปิดหน้ากากอนามัย ทำให้เรายังพบคลัสเตอร์นี้อยู่ถึงร้อยละ 48 ส่วนผู้สัมผัส พบ 47% การตรวจ ATK จำนวน 4% และบุคลากรแพทย์สาธารณสุข 0.6%