ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เช็ก! 6 รูปแบบมิจฉาชีพอ้างเป็น "DHL" ลวงข้อมูล-ปล้นเงินออนไลน์

สังคม
9 ก.พ. 65
12:46
5,750
Logo Thai PBS
เช็ก! 6 รูปแบบมิจฉาชีพอ้างเป็น "DHL" ลวงข้อมูล-ปล้นเงินออนไลน์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"DHL Express" เปิดเผยข้อมูล 6 รูปแบบที่มิจฉาชีพมักใช้ในการหลอกลวงประชาชน และ 4 ข้อสังเกตสำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบก่อนเสียข้อมูลหรือทรัพย์สินไป

แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรป่วนอาละวาดอย่างต่อเนื่อง หลายคนสูญเงินในบัญชีไปจนหมด และได้เตือนภัยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงแจ้งเตือนขึ้นบัญชีดำเบอร์โทรศัพท์แปลกปลอมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่ามาจาก "DHL" หรือ "DHL Express" 

ขณะที่  "DHL Express" ได้เปิดเผยข้อมูลรูปแบบที่มิจฉาชีพมักใช้ในการหลอกลวงประชาชน และ 4 ข้อสังเกตสำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบก่อนเสียข้อมูลหรือทรัพย์สินไป

6 รูปแบบที่มิจฉาชีพมักใช้เพื่อหลอกลวง

  1. โทรมาแจ้งว่ามีพัสดุจัดส่ง โดยให้กดหมายเลขเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

  2. โทรมาแจ้งว่าพัสดุจากต่างประเทศติดศุลกากร และไม่สามารถจัดส่งได้ ต้องแอดไลน์ หรือโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวเพื่อเคลียร์ของ

  3. โทรมาแจ้งว่าคุณได้รับรางวัลและของอยู่ในระหว่างจัดส่ง แต่ต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคล หรือชำระค่าภาษีนำเข้า โดยที่คุณเองไม่ได้มีประวัติการร่วมกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด

  4. โทรเข้ามากล่าวหาว่าส่งของผิดกฎหมาย และหลอกให้โอนเงินเพื่อเคลียร์คดี หรือโอนสายให้เคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์

  5. อ้างว่าคุณเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน มีประวัติส่งพาสปอร์ต บัตร ATM ไปประเทศจีน ฯลฯ

  6. ส่งข้อความ SMS อ้างว่าเป็น DHL ชวนให้คลิกลิงค์ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพบนมือถือ


ข้อสังเกตสำคัญ รู้ทันมิจฉาชีพ

1.มิจฉาชีพจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดส่งพัสดุ (ชื่อผู้รับ ผู้ส่ง ต้นทาง ปลายทาง หมายเลขติดตามพัสดุ สถานะการจัดส่ง ฯลฯ) หากเป็นการติดต่อจาก DHL Express ตัวจริง เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลการจัดส่งเบื้องต้น รวมถึงหมายเลข waybill ที่ลูกค้าจะนำไปติดตามสถานะของพัสดุระหว่างประเทศได้

2.มิจฉาชีพมักจะแจ้ง "หมายเลข waybill" ที่ไม่มีอยู่จริง ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งเอกสารหรือพัสดุระหว่างประเทศที่ขนส่งโดย DHL Express ได้เบื้องต้นที่ https://mydhl.express.dhl/th/th/home.html

3.มิจฉาชีพจะบังคับให้โอนเงินเข้า "บัญชีธนาคารในชื่อบุคคล" ซึ่ง DHL Express ไม่มีนโยบายเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าภาษี หรือค่าบริการผ่านบัญชีธนาคารชื่อบุคคลเป็นอันขาด

4.มิจฉาชีพจะกล่าวหาผู้รับสายว่าทำผิดกฎหมาย อ้างชื่อสถานีตำรวจและอาสาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์หรือไลน์ หรือเรียกร้องให้โอนเงินเป็นหลักประกันและจะคืนให้ในภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งกระบวนการของตำรวจเช่นนี้ไม่มีอยู่จริง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง