"มิ่งขวัญ" ประกาศลาออกจากส.ส.เศรษฐกิจใหม่ กลางสภาฯ

วันนี้ (17 ก.พ.2565) เวลา 17.00 น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อภิปรายว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์อยู่ 8 ปีก็เกินพอ เพราะเศรษฐกิจตกต่ำโดยลำดับ พร้อมตั้งคำถามถึงวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำ ยกตัวอย่างกรณีสั่งเพิ่มโรงรับจำนำแก้หนี้ น้ำท่วมให้เลี้ยงปลาแทนปลูกข้าว สวดมนต์ไล่พายุ ใช้รถทหารส่งสินค้าแทนรถบรรทุกที่มาประท้วง เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัวแก้จน

การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้หนี้ครัวเรือนไทยเพิ่มสูงถึง 15 ล้านล้านบาท, หนี้สาธารณะ 9 ล้านล้านบาท บัตรคนจนเพิ่มเป็น 20 ล้านคน, เดือน ม.ค.65 ราคาน้ำมันขึ้น 7 ครั้ง กองทุนน้ำมันติดลบ 1.4 หมื่นล้าน, การประมงไทยเจ๊ง

มิ่งขวัญ อภิปรายการบริหารงาน COVID-19 ล้มเหลว เกิดความเหลื่อมล้ำและเอื้อประโยชน์นายทุน หลายคนบอกให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ลาออก 

วันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งผมเจาะจงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าจะ 8 ปีแล้ว เรามีความสุข หรือมีความทุกข์

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ผมเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ช่วงหาเสียงมีเวลาหาเสียงไม่กี่ครั้ง

ก่อนประกาศจุดยืนผมได้ถาม ส.ส.แล้วว่าเราจะอยู่ตรงไหน ทุกคนบอกว่าเราจะไม่ร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งผมจะไม่กลับไปกลับมา

ต่อมาในห้องแถลงข่าวมีข่าวลือ และตนเองได้ไปแถลงข่าว ซึ่งมีคำถามว่า ยังรักษาจุดยืนหรือไม่ ส่วนผมบอกว่า สิ่งที่พูดวันนี้เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่งั้นผมไม่มายืนอยู่คนเดียวตรงนี้

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เกิดนวัตกรรมศัพท์ งูเห่า และลิงกินกล้วย ผมขออภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าทำอะไรให้พวกเขาเปลี่ยนจุดยืน ซึ่งผมไม่สามารถทรยศสัญญาที่ให้ไว้ต่อประชาชนได้

ในช่วงท้ายของการอภิปราย นายมิ่งขวัญพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "2 ปีเศษ ผมไม่มีความสุขกับการทำงาน" ซึ่งประธานสภาฯ บอกว่า ท่านไม่ต้องร้อง ไม่ต้องเศร้าขนาดนั้น

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง "ผมขอยื่นใบลาออก สละความเป็น ส.ส.เพื่อให้จบ" พร้อมฝากขอความถึง พล.อ.ประยุทธ์ และลูกน้องว่า ไปทำอะไรเขาถึงเปลี่ยนจุดยืน แต่ผมจะยังคงดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และทำงานให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน รวมทั้งออกไปเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งสมัยถัดไป