เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2565 ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) นำทีมนักวิจัย สวทช. แถลงข่าวการจัดงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 17 (17th NSTDA Annual Conference: NAC2022) ภายใต้แนวคิด “พลิกฟื้นเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม BCG” บนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบผ่านเว็บไซต์ www.nstda.or.th/nac ระหว่างวันที่ 28-31 มี.ค.2565
สวทช.เตรียมอัปเดตเทคโนโลยีและนวัตกรรม จากศักยภาพของบุคลากรวิจัยและห้องปฏิบัติการ สวทช. เพื่อนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียกระดับคุณภาพของสินค้าและบริการ โดย สวทช.ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการประชุมประจำปี สวทช. ในวันที่ 28 มี.ค.2565
ขณะที่ ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ในฐานะประธานจัดงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 17 กล่าวว่า หัวข้อการสัมมนามีทั้งหมด 45 หัวข้อสัมมนา เช่น ความท้าทายในการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทยด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, โมเดลเศรษฐกิจ BCG สาขาเครื่องมือแพทย์ ความก้าวหน้าอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน, Food Waste กับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน, จีโนมิกส์ประเทศไทย: อนาคตของการแพทย์จีโนมิกส์และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจีโนม, การอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาตามหลักสูตรฐานสมรรถนะด้วย BCG Model รวมทั้ง International Webinar on COVID-19
นิทรรศการออนไลน์ 102 ผลงาน แบ่งเป็น 4 กลุ่มตามการดำเนินงานสำคัญเพื่อขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG และแผนปฏิบัติการ AI ของ สวทช. ได้แก่ 1. เกษตรและอาหาร 2. สุขภาพและการแพทย์ 3. พลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ และ 4. ดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ (Digital and Electronics) โดยในนิทรรศการแต่ละเรื่องจะมีนักวิจัยเจ้าของผลงานมานำเสนองานวิจัยในรูปแบบ VDO Online โดยทั้งนิทรรศการออนไลน์ และหัวข้อสัมมนาออนไลน์ สามารถรับชมผ่านระบบ VDO Conference ของซิสโก้ (cisco) เว็บเอ็กซ์ มีทติ้ง (webex meeting) โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังการสัมมนา สามารถลงทะเบียนที่เว็บไซต์ www.nstda.or.th/nac โดยเลือกหัวข้อที่สนใจตามวันและเวลาที่สะดวก
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือ Open House หรือการเปิดบ้านให้ผู้ประกอบการ และนักลงทุนได้เยี่ยมชมแบบออนไลน์ จากการนําเสนอเทคโนโลยีจากความชำนาญของห้องปฏิบัติการชั้นนำ 43 ห้องปฏิบัติการ จำนวนรวม 61 เรื่อง ซึ่งความพิเศษของการจัดในรูปแบบออนไลน์ คือ สวทช. เปิดบ้านให้เห็นห้องปฏิบัติการวิจัยผ่านวีดีโอแบบใกล้ชิด และหากมีคำถามก็สามารถแชทข้อความสอบถามได้ทันที เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม และนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสและแรงบันดาลใจสามารถนำไปเป็นแนวทางต่อยอดธุรกิจด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ สวทช. ได้นำตัวอย่างผลงานวิจัยมาแสดง อาทิ “Plant-based egg” ผลิตภัณฑ์ไข่เหลวจากโปรตีนพืช ที่พัฒนาสูตรโปรตีนจากพืชเป็นไข่เหลวจากพืชพาสเจอร์ไรซ์ ที่มีคุณสมบัติในการขึ้นรูปในระหว่างการทอดในน้ำมันได้ และเนื้อสัมผัส ใกล้เคียงกับไข่ไก่ เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มกินวีแกน(Vegan), Vegetarian, กลุ่มที่แพ้ไข่นวัตกรรม มะนีมะนาว น้ำมะนาวคั้นสด 100% แช่แข็ง (ManeeManao) นักวิจัยได้เปลี่ยนสภาวะการแช่เยือกแข็งที่เหมาะสม โดยขั้นตอนการผลิตเดิมไม่ถูกเปลี่ยน ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการลดการทำงานของเอนไซม์ ผลการทดสอบด้วยกระบวนการที่ปรับปรุงนั้นคือ กลิ่น สี และรสของ
น้ำมะนาวแช่แข็งที่นำมาทำละลายเทียบเคียงน้ำมะนาวสด ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของกลิ่น สี รส ภายใน 2-3 วัน แต่น้ำมะนาวแช่แข็งสามารถเก็บได้นานกว่า 2 ปี Handy Sense + Farm to School ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะ (HandySense) ประกอบด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดและควบคุมสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยต่อการเจริญเติบโตของพืช ด้วยการนำเทคโนโลยีเซนเซอร์ (sensor) ผนวกอุปกรณ์ไอโอที (Internet of Things) มาพร้อมกับความโดดเด่น คือ อุปกรณ์ใช้งานง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ในราคาที่เกษตรกรเข้าถึงได้ชุดตรวจแบบรวดเร็วในรูปแบบ strip test สำหรับตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสใบด่างมันสำปะหลังในมันสำปะหลัง สำหรับพกพาไปใช้ในภาคสนาม โดยไม่ต้องเก็บตัวอย่างส่งมาตรวจยังห้องปฏิบัติการ ทราบผลได้ภายใน 15 นาที และตรวจสอบได้เองโดยไม่ต้องอาศัยผู้ชำนาญการและเครื่องมือวัดอ่านผล
การพัฒนาชุมชนด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG – การผลิตและเพิ่มมูลค่าพันธุ์ฟักทองไข่เน่า อัตลักษณ์ท้องถิ่น กลุ่มนาน้อย จังหวัดน่าน ทำให้ได้สายพันธุ์ฟักทองไข่เน่าที่มีสีเขียวปนเหลือง มีความสม่ำเสมอของรูปทรงผล มีรสชาติหวาน มัน อร่อยและเนื้อเหนียวหนึบ มีกระบวนการเพาะปลูกที่ได้มาตรฐาน ส่วนของฟักทองที่เหลือนำมาแปรรูป น้ำมันเมล็ดฟักทอง การหมักด้วยหัวเชื้อจุลินทรีย์ประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์สำหรับเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์และโค สร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชนอย่างแท้จริง
ผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติโปรตีนต่ำ มีปริมาณโปรตีนที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้น้อยเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ISO 11193-1:2008, EN 455 และ ASTM D3578-05 ช่วยลดปริมาณโปรตีนที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ในผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติ ยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติให้สามารถแข่งขันได้กับผลิตภัณฑ์ถุงมือยางสังเคราะห์ และรักษาความเป็นผู้นำด้านการผลิตยางและผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติของประเทศไทย
เครื่องผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยวิธีทางไฟฟ้าเคมี ในชื่อ ENcase ที่ใช้เพียงส่วนผสมระหว่าง เกลือกับน้ำบริสุทธิ์ เพื่อทำเป็นสารละลายเกลือแกง ก่อนใช้กระบวนการทางไฟฟ้าทำปฏิกิริยาเคมี จนได้น้ำยาออกมา 2 ชนิดพร้อมกัน คือกรดและด่าง โดยในส่วนที่เป็นกรดมีองค์ประกอบของไฮโปคลอรัส มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วพบว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการพัฒนา สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมงาน NAC2022 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีได้ที่ www.nstda.or.th/nac หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2564-8000