กรณีรัสเซียยิงถล่มโรงไฟฟ้าซาปอริชเชีย (Zaporizhzhia) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ ประเทศยูเครน จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นนั้น
โฆษกของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากถูกยิง ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ทวีตข้อความเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีและยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟ ท่ามกลางความกังวลว่าสารกัมมันตรังสีอาจรั่วไหล
ขณะที่สำนักข่าว AP รายงานอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครน ว่า มีการตรวจพบระดับสารกัมมันตรังสีเพิ่มสูงขึ้นในบริเวณใกล้โรงไฟฟ้า ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของบางสื่อก่อนหน้านี้ ส่วนข้อมูลของทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา ชี้ว่ายังไม่พบว่ามีระดับของสารกัมมันตรังสีเพิ่มสูงขึ้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้าปลอดภัยแล้ว โดยอาคารศูนย์ฝึกอบรมและห้องปฏิบัติการเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ดังกล่าว
ด้านโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกมากล่าวหาว่า รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ข่มขวัญและต้องการให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเชอร์โนบิล โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญด้านพลังงานของยูเครน เนื่องจากผลิตกระแสไฟฟ้าคิดเป็น 1 ใน 4 ของทั้งประเทศ
อ่านข่าวอื่นๆ
ด่วน! รัสเซียถล่ม "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์" ในยูเครน
"รัสเซีย-ยูเครน" หารือรอบ 2 ยังยุติสงครามไม่ได้