จากกรณีวงการบันเทิงสูญเสีย บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์ พระเอกซีรีส์เคว้ง เสียชีวิตด้วยวัย 25 ปี ซึ่งการเสียชีวิตเป็นการเสียชีวิตแบบนอนหลับไป ทางครอบครัวได้นำตัวส่งโรงพยาบาล และพยายามกู้ชีพแต่ไม่สำเร็จ
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน! “บีม ปภังกร” นักแสดงซีรีส์เคว้ง เสียชีวิต)
สำหรับการนอนหลับไปแล้วเสียชีวิตนั้น เรียกอีกอย่างว่า "อาการใหลตาย" โดย พญ.ชญานุตย์ สุวรรณเพ็ญ ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า อาการใหลตายเกิดจากหัวใจที่เต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรงที่สุด ทำให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะสมองได้ เมื่อสมองขาดออกซิเจนอาจแสดงอาการชักเกร็ง หายใจครืดคราดผิดปกติคล้ายนอนละเมอ เรียกไม่รู้ตัว
สำหรับความผิดปกติมักพบในขณะนอนหลับ ผู้ป่วยจะเสียชีวิตถ้าการเต้นผิดจังหวะของหัวใจนั้นเกิดนานพอและไม่ได้รับการรักษา แต่ผู้ป่วยอาจจะรอดชีวิตฟื้นขึ้นมาได้กรณีที่การเต้นผิดจังหวะของหัวใจหยุดเองหรือได้รับการรักษาที่เหมาะสมอันได้แก่ การช็อกหัวใจหรือการปั๊มหัวใจ
นอกจากใหลตายจะพบบ่อยขณะที่ผู้ป่วยหลับแล้ว ก็ยังอาจพบได้ในขณะตื่นเช่นกัน โดยอาการที่เกิดอาจเกิดอาการใจสั่นช่วงสั้น ๆ หรืออาการวูบเป็นลมหมดสติได้
ทั้งนี้ อาการใหลตายมักพบในเพศชายวัยทำงาน (อายุ 25-55 ปี) แต่ก็สามารถพบได้ทั้งในเพศหญิง ในเด็ก หรือในผู้สูงอายุได้เช่นกันสำหรับในประเทศไทย พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และรองลงมาในภาคเหนือ
ปัจจัยเสี่ยงเกิดอาการใหลตาย
ขณะที่ข้อมูลจาก รศ.พญ.สิรินทร์ อภิญาสวัสดิ์ สาขาวิชาโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ปัจจัยส่งเสริมทำให้ผู้ป่วยมีพันธุกรรมโรคใหลตายเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรงและอาจทำให้เสียชีวิต ประกอบด้วย การเป็นไข้สูง, การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์, การใช้ยานอนหลับ รวมถึงการขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม
ขณะที่การรักษา ยังไม่มีการรักษาใดที่สามารถป้องกันหรือหยุดการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ทั้งหมด ดังนั้น จึงควรลดและเลี่ยงปัจจัยส่งเสริม เช่น ถ้ามีไข้สูง ควรใช้ยาลดไข้ ลดและเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้การฝังเครื่องกระตุกหัวใจเข้าไปในร่างกายได้
เมื่อพบผู้ป่วยมีลักษณะคล้ายโรคดังกล่าว ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้
- จับผู้ป่วยนอนราบ ระหว่างรอรถพยาบาล
- ประเมินผู้ป่วย หากไม่หายใจหรือชีพจรที่คอไม่เต้น ให้กดหน้าอกยุบลงราว 1.5 นิ้ว แล้วปล่อยให้คลายตัวเป็นชุดในความถี่ราว 100 ครั้ง/นาที จนผู้ป่วยรู้ตัว
- ไม่ควรงัดปากคนไข้ด้วยของแข็ง เพราะอาจเป็นอันตรายและระลึกเสมอว่าคนที่เป็นโรคใหลตายอาจจะมีโรคอื่นของสมอง เช่น ลมชัก โรคหัวใจที่อาจเป็นต้นเหตุให้หมดสติได้เช่นกัน