วันนี้ (29 มี.ค.2565) นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ปัจจุบันมีการใช้วิธีหลอกลวงได้แยบยลและดูน่าเชื่อถือมากขึ้น หลอกเหยื่อทางโทรศัพท์ สร้างสถานการณ์ให้ตื่นตระหนก หรือหลอกล่อด้วยเงินรางวัลต่างๆ โดยกลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มักแอบอ้างเป็นธนาคาร คือ โทรแจ้งว่าลูกค้าติดหนี้บัตรเครดิต และขอให้ลูกค้ารีบชำระเงินโดยด่วนด้วยการโอนเงินเข้ามายังบัญชีที่หลอกลวง
กรณีล่าสุดเป็นกลโกงใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าธนาคาร ซึ่งได้รับสายโทรศัพท์ระบุเป็นเบอร์โทรจากต่างประเทศ อ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทขนส่งเอกชน แจ้งเรื่องพัสดุมีของผิดกฎหมาย และขอให้เปิดวิดีโอคอลเพื่อพูดคุยกับตำรวจ
แต่เป็นตำรวจตัวปลอมที่ใช้เทคโนโลยี Deepfake ให้ภาพขยับแค่ปาก และใส่เสียงพูดเชิงข่มขู่ว่าพัสดุที่ส่งเป็นสมุดบัญชี ซึ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นการฟอกเงิน โดยจะขอตรวจสอบบัญชีด้วยการให้โอนเงินออกจากบัญชีมาไว้ที่ตำรวจ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และพูดหลอกล่อจนลูกค้าโอนเงินให้ทั้งหมด ซึ่งกว่าลูกค้าจะรู้ตัวว่าถูกหลอก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ถอนเงินจำนวนกว่า 600,000 บาทออกจากบัญชีไปหมดแล้ว
กรรมการผู้จัดการ ธ.กสิกรไทย กล่าวอีกว่า ธนาคารได้วางแนวทางการทำงาน 3 ด้าน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยประสานงานกับหน่วยงานรัฐเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทัน จัดระบบตรวจสอบบัญชีผิดปกติและอัปเดตกลโกงมิจฉาชีพ พร้อมรณรงค์ 3 แนวทางรู้ทันมิจฉาชีพ #ใช้สติป้องกันสตางค์ “ไม่เชื่อ-ไม่ให้ข้อมูล-ไม่โอน” ผ่านสื่อต่างๆ ของธนาคาร