นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังหาแหล่งเงินกู้ และผลักดันโครงการคนละครึ่งเฟส 5 นั้น อาจเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เเต่จากการหารือกัน นายกฯ ได้มอบให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแหล่งเงิน เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการที่มีความจำเป็นเพิ่มเท่านั้น โดยไม่ได้พุ่งเป้าหมายไปที่การกู้เงินแต่อย่างใด
ส่วนการดำเนินโครงการคนละครึ่งเฟส 5 รมว.คลัง ระบุว่า ยังต้องพิจารณาว่าจำเป็นหรือไม่ เนื่องจากเป็นมาตรการที่ใช้งบประมาณสูง และกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ขณะที่การแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ก็ช่วยในระดับหนึ่งในช่วงที่ยังเผชิญปัญหาเรื่องรายได้ แต่ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ รายรับของประชาชนเริ่มกลับมา ก็ควรลดมาตรการ และปรับแนวทางการช่วยเหลือเข้าไปสู่การสร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อทำให้ประชาชนกลับมามีรายได้เพิ่ม
รมว.คลัง ระบุอีกว่า ความคืบหน้าการใช้จ่ายภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้เพิ่มเติม 500,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ยังกู้ไม่หมด คาดว่าเหลืออีกประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งการจะกู้ต้องดูเรื่องของความจำเป็นในการเงิน และเป็นการทยอยกู้ ไม่ใช่กู้มารอไว้
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แจ้งว่า ปัจจุบัน พ.ร.ก.เงินกู้ 500,000 ล้านบาท ได้มีการแบ่งกรอบวงเงินสำหรับใช้ทางการแพทย์และสาธารณสุข 110,000 ล้านบาท ใช้เยียวยาช่วยเหลือประชาชนจากโควิด 220,000 ล้านบาท และงบสำหรับใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 170,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีการอนุมัติและเบิกใช้เงินอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวอื่นๆ
ไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับขึ้นราคาเป็นฟองละ 3.50 บาท
ครม.ปรับมาตรการลดค่าครองชีพ ช่วยค่าน้ำมัน - ลดค่าเอฟที
รัฐเอาผิดทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง-เราชนะ” 435 คดี