ทำอย่างไรให้รอดเมื่อถูก "ฉลาม" จู่โจม

กรณี ด.ช.ณภัทร คริสแตลโกล หรือ น้องอเล็กซ์ วัย 8 ขวบ ลูกครึ่งไทย-ยูเครน ถูกสัตว์ในทะเลกัดบริเวณชายหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 พ.ค. ถูกฉลามหัวบาตรกัดบริเวณขาขวาและต้องเย็บแผล 33 เข็ม

วันนี้ (3 พ.ค.2565) นายศิวัชฐ์ ระวังกูล นายอำเภอกะทู้ จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่บริเวณหน้าหาดกมลา และสอบถามเหตุการณ์จากผู้ประกอบการ ทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ให้ทำป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาลงเล่นน้ำได้ระวัง และจะมีการประกาศเสียงตามสายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แจ้งเตือนอีกทางหนึ่ง

จากการสอบถามผู้ประกอบการบริเวณชายหาดทราบว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ทำให้มีปลาหลากหลายชนิดเข้ามาหากินบริเวณชายหาด อาจทำให้ฉลามเข้ามาใกล้พื้นที่

อ่านข่าวเพิ่ม ชี้รอยแผล "ฉลามหัวบาตร" กัดเด็กชาย 8 ขวบหาดกมลา

นายอภิสิทธ์ อนันต์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่กำลังให้บริการลูกค้าบริเวณหน้าชายหาดกมลา เห็นเด็กคนดังกล่าวลงไปเล่นน้ำอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็วิ่งขึ้นมา เห็นมีเลือดไหลเต็มขา คาดว่าน่าจะโดนปลาสากกัด เพราะเมื่อ 2-3 ปี ก่อนหน้านี้เคยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกปลาสากกัด และจากการที่ไปดำน้ำในบริเวณนี้เคยพบปลาสากเข้ามาหากินปลาเล็กๆหรือพืชน้ำริมชายฝั่งเนื่องจากบริเวณนี้ค่อนข้างจะมีความอุดมสมบูรณ์

วิธีเอาตัวรอด ถ้าเจอสัตว์ทะเลจู่โจม

ด้านนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า จากสถิติในรอบ 10 ปี ประเทศไทยเคยมีรายงานฉลามกัดคนแค่ 3 ครั้ง โดยมีที่ จ.ภูเก็ต 2 ครั้ง และหาดทรายน้อย เขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 ครั้ง โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นฉลามหัวบาตร เพราะกินในทะเลน้ำตื้น เมื่อเจอขาแกว่งไปมาคิดว่าเป็นเหยื่อจึงงับ

รอบ 10 ปี ยังไม่มีใครโดนฉลามจู่โจมจนบาดเจ็บสาหัส พบว่าพฤติกรรมของฉลามหัวบาตรที่งับขา เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเหยื่อ แต่เมื่องับแล้วว่าไม่ใช่อาหาร ก็จะผละไปจะไม่กัดซ้ำ

เมื่อถามว่าวิธีการเอาตัวรอดจากการถูกฉลาม หรือสัตว์ทะเลทำร้ายในระหว่างลงเล่นน้ำ นายธรณ์กล่าวว่า สำหรับในไทยไม่มีฉลามสายพันธุ์ดุ เช่น ฉลามขาวและฉลามเสือ เหมือนในต่างประเทศที่จะมีพฤติกรรมกัดเหยื่อแล้วกัดซ้ำ

ส่วนในไทย ฉลามที่มีประวัติทำร้ายบาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับสาหัส เช่น ฉลามหัวบาตร ที่หากินในทะเลอ่าวไทยและอันดามัน คำแนะนำเบื้องต้นถ้าไปเล่นน้ำแล้ว พบว่าเหมือนถูกอะไรงับขาขอให้ตั้งสติก่อน

ส่วนมากไม่มีใครทันรู้ตัว ถ้าถูกสัตว์ทะเลจู่โจม จึงไม่สามารถป้องกันได้ แต่เมื่อถูกอะไรงับขอให้คุมสติให้อยู่ ตั้งสมาธิให้ดี อยู่เฉยๆ เพราะเขาจะกัดแล้วสะบัด จากนั้นให้รีบเข้าฝั่งอย่างช้า เพราะฉลามที่มีในน่านน้ำไทยจะไม่กัดหรือจู่โจมซ้ำแบบฉลามขาว

รองคณบดีคณะประมง มก.กล่าวว่า ไม่อยากให้มองภาพฉลามในน่านน้ำไทยว่าเป็นสัตว์ดุร้าย ฉลามที่หากินไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่นักดำน้ำ ยังไม่เคยมีใครถูกฉลามทำร้าย หรือถูกฉลามกัด ซึ่งกรณีที่เคยมีฉลามกัดเสียชีวิตในไทย เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2508 หรือเมื่อ 50 ปีก่อน

ย้อนรอยไทยเคยมีเคสฉลามกัดคน

สำหรับประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เคยมีการรายงานข่าวกรณีฉลามกัดขานักท่องเที่ยวมาแล้วอย่างน้อย 2-3 เหตุการณ์ ดังนี้

• เม.ย.2561 เหตุการณ์ฉลามหัวบาตร กัดขานักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่หาดทรายน้อย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ใช้โดรนบินสำรวจพบฉลาม 2 ตัวขนาดความยาว 1.5 เมตร ว่ายน้ำอยู่ จนต้องมีการติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ

• ม.ค.2563 กรณีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เล่นน้ำทะเลบริเวณหาดนางทอง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ถูกฉลามงับที่ขา สันนิษฐานว่าเป็นฉลามหัวบาตร พบบริเวณขาขวาฉีกขาด ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร

• พ.ค.2563 กรณีฉลามกัดเท้าซ้ายของเด็กวัย 12 ขวบในพื้นที่ หมู่ 2 ต.เจ๊ะบิลัง จ.สตูล ขณะนั่งห้อยขาเล่นน้ำ กับเพื่อนที่คลองจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์เย็บร่วม 50 เข็ม

• เม.ย.2565 ด.ช.ณภัทร คริสแตลโกล หรือน้องอเล็กซ์ วัย 8 ขวบลูกครึ่งไทย-ยูเครน ถูกสัตว์ในทะเลกัดบริเวณชายหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 พ.ค. ถูกฉลามหัวบาตรกัดบริเวณขาขวาและต้องเย็บแผล 33 เข็ม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดคลิปฉลามหน้าวัดถ้ำเขาเต่า

ยืนยันรอยแผลนักท่องเที่ยว ถูก "ฉลามหัวบาตร" งับ