ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ชาวบ้านขับไล่ลัทธิประหลาด-เร่งสอบ 11 ศพปริศนา

อาชญากรรม
9 พ.ค. 65
20:00
2,241
Logo Thai PBS
ชาวบ้านขับไล่ลัทธิประหลาด-เร่งสอบ 11 ศพปริศนา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ชาวบ้านไทคอนสาร จ.ชัยภูมิ ยื่นหนังสือให้ผู้ว่าฯชัยภูมิ ขับไล่เจ้าลัทธิพระบิดา หลังตำรวจ-ฝ่ายปกครองบุกจับพร้อมแจ้งข้อหาเบื้องต้นพบบุกรุกป่าไม้ 26 ไร่ และผิดพ.ร.บ.ควบคุมโรค พร้อมส่งศพ 11 ศพสอบเพิ่ม หลังอ้างมีใบมรณบัตรจะนำไปเผา แต่ไม่ทำตามที่แจ้ง

ความคืบหน้าการตรวจสอบลัทธิพระบิดา หมู่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ตำบลดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลังจากมีการแจ้งข้อหาบุกรุกป่า และความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคกับผู้ที่อ้างเป็นพระบิดา 

วันนี้ (9 พ.ค.2565) เจ้าหน้าที่และฝ่ายปกครองยังเข้าตรวจสอบในสำนักลัทธิพระบิดา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเฉพาะ 11 ศพปริศนาที่พบในสำนักแห่งนี้ บางศพไม่สามารถชี้ชัดสาเหตุการตายได้ จึงส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเป็นหลักฐานนำไปสู่การดำเนินคดีตามความผิดเกี่ยวกับศพและฌาปนสถาน เพราะแม้มีการแจ้งตาย และระบุว่าจะฌาปนกิจด้วยการเผา แต่ดำเนินการไม่ถูกต้อง และยังต้องตรวจสอบการรักษาโรคที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า  ตอนนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ว่าศพทั้ง 11 ศพมีการแจ้งใบมรณบัตร แต่การแจ้งกับพนักงานจดแจ้งว่าจะมีการเผา แต่ไม่ได้เผา และจะประสานกันเพื่อเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

 

จากการตรวจสอบโดยรอบสำนักพระบิดา พบว่าเปิดให้ประชาชนเข้ามาสร้างที่พักเพื่ออยู่อาศัย ประกอบอาชีพ และรักษาอาการป่วย ก่อนมีการร้องเรียนและนำไปสู่การจับกุมตัวนายทวี หนันรา อายุ 75 ปี ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าสำนักไปดำเนินคดี

เบื้องต้นรับสารภาพทั้ง 2 ข้อหา คือบุกรุกป่า และความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ตำรวจนำตัวไปยื่นขอฝากขังต่อศาลจังหวัดภูเขียวแล้ว ขณะที่กลุ่มลูกศิษย์เตรียมยื่นขอประกันตัว พร้อมอ้างว่าการรักษาโรคเป็นไปตามความเชื่อส่วนบุคคล

อ่านข่าวเพิ่ม แจ้ง 2 ข้อหา "บุกรุกที่ดินสาธารณะ-พ.ร.บ.โรคติดต่อ" เจ้าลัทธิประหลาด

ผลตรวจสอบบุกรุกป่าไม้ 26 ไร่เศษ-ชาวบ้านขับไล่

ทั้งนี้นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าทีดินสำนักลัทธิประหลาดอยู่ในเขตป่าไม้ พ.ศ.2484 เบื้องต้นพบบุกรุกป่า 26 ไร่เศษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว

ขณะที่วันนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวกลุ่มชาวบ้านไทคอนสาร นำป้ายข้อความ ขับไล่พระบิดา และสาวกให้ออกจากพื้นที่อำเภอคอนสาร โดยอ้างว่าทำให้ชาว อ.คอนสาร เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ชัยภูมิให้มีคำสั่ง ขับไล่ผู้นำลัทธิประหลาด และบรรดาสาวก ออกจากชุมชน และขอเรียกร้องให้นำที่สาธารณะประโยชน์ที่นายทวี พร้อมพวกครอบครอง กลับคืนมาเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนร่วม

เปิดประวัติผู้อ้างตัวเป็นพระบิดา

ผู้ที่อ้างตัวเป็น "พระบิดา" ตั้งตัวเป็นเจ้าสำนัก ไว้ผมยาว ไม่สวมเสื้อ ไม่อาบน้ำนานหลายเดือน มีชื่อจริงว่า นายทวี หนันรา หรือ "โจเซฟ" อายุ 75 ปี เป็นชาวจ.ขอนแก่น เคยบวชพระ และมาตั้งสำนักบริเวณนี้ ตั้งแต่ ปี 2537 หรือ 28 ปีก่อน

อาสาดูแลผู้ป่วย หรือเชื่อว่าโดนคุณไสย  สมัยก่อน ใช้น้ำหมักสมุนไพร ไม่ได้ใช้สิ่งสกปรก จนมีผู้หลงเชื่อ และผู้นับถือบางส่วน มาขออาศัยอยู่ด้วย นายทวี จึงสึกพระ มาเป็นเจ้าสำนัก และเริ่มรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ตามความเชื่อ

ผู้ที่มารักษากับนายทวี อ้างว่า สิ้นหวังกับการรักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่มีเงินรักษา เป็นคนไร้บ้าน และบางคนหนีคดีมา นายทวี บุกรุกป่าสาธารณะมาเกือบ 30 ปี โดยไม่มีการดำเนินคดีใดๆ นี่อาจจะเป็นจุดอ่อน ให้นายทวี ยังมีพฤติกรรมแบบนี้มายาวนาน

จิตแพทย์แนะคิดวิเคราะห์แก้ความหลงผิด

นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์  ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า คนที่เชื่อเกิดจากความงมงาย เชื่อโดยไม่มีเหตุผล หรือหลักฐานเชิงประจักษ์ใดๆ ส่วนคนที่อ้างตัวเป็นผู้นำลัทธิ เป็นความหลงผิด อาจจะป่วย เช่น ไบโพลาร์ หรือไม่ป่วยก็ได้ แต่หวังผลประโยชน์จากความงมงาย

สาเหตุที่เชื่อกันทั้งหมู่บ้าน เพราะยิ่งอยู่ด้วยกัน ยิ่งเสริมแรงกัน และถ้าสิ้นหวัง ความทุกข์เรื้อรัง จะยิ่งงมงายมากขึ้น ถ้าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องสลายชุมชน แยกผู้นำ ส่วนแก้ปัญหาระยะยาว ต้องแก้ที่การศึกษา

นักปรัชญา มอง 3 ปัจจัย ทำคนเชื่อลัทธิประหลาด

ผศ.ชาญณรงค์ บุญหนุน ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร กล่าวว่า นักวิชาการด้าน วิกฤตนี้เกิดจาก 3 ปัจจัย 1. องค์กรด้านพุทธศาสนา ยังให้ความรู้ไม่ดีพอ เพราะทั้งสงฆ์และศาสนิกชน ยังขาดความรู้ เช่น บุคคลที่อ้างว่าเป็นพระ เคยบวชพระ แต่กลับปฏิบัติตรงกันข้าม อวดอุตริ

2. บริการด้านสาธารณสุขไม่ทั่วถึง แม้คนจะเข้าถึงบริการได้ตามสิทธิพื้นฐาน แต่ยังขาดความสะดวกสบาย ส่วนหนึ่งจึงเลือกเข้าหา ลิทธิ-ความเชื่อ ที่จะช่วยให้พวกเขาพ้นทุกข์ พ้นจากความเจ็บป่วย

และ 3.สังคมไทย มีลักษณะบูชาบุคคล เชื่อว่า บุคคลที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะมีความศักดิ์สิทธิ และช่วยให้ตัวเองพ้นทุกข์ แทนที่จะเชื่อในหลักธรรมคำสอบที่เป็นแก่นสาระ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เชื้อโรคเพียบ! แพทย์เตือนลูกศิษย์กิน "สิ่งปฏิกูล" ตรวจร่างกายด่วน

 บุกจับอ้างสำนักฤาษีชัยภูมิ ซุก 11 ศพปริศนา-รักษาโรคประหลาด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง