จากกรณีโซเชียลโพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมข้อความระบุว่า "หนีเสือปะจระเข้จริงๆ ทำเกินไปมั้ย 3 วัยรุ่นขอความช่วยเหลือตำรวจสามพราน ถูกจับใส่กุญแจมือ-กระทืบ-เหยียบหัว-เข็มขัดฟาด" โดยวัยรุ่น 3 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาขอความช่วยเหลือจากตำรวจสามพราน หลังถูกคู่อริไล่ทำร้าย
จากภาพตำรวจได้สั่งให้วัยรุ่นชาย 3 คน ลงจากรถจักรยานยนต์และให้เปิดเสื้อคล้ายขอตรวจค้นอาวุธ และพบว่า 1 ใน 3 วัยรุ่น พกปืน 1 กระบอก ตำรวจจึงยึดไว้และให้ทั้ง 3 คน นั่งลงถอดเสื้อตามด้วยให้นอนคว่ำหน้าราบกับพื้นถนน
โดยในภาพกลุ่มวัยรุ่นปฏิบัติตามไม่มีท่าทางในลักษณะขัดขืนการตรวจค้นจับกุม แต่เมื่อนอนราบลงไป ตำรวจได้ทำร้ายวัยรุ่นทั้ง 3 คน ด้วยการกระทืบ และเหยียบซ้ำและตำรวจได้เล็งปืนไปที่วัยรุ่นชายคนหนึ่งตลอดเวลาที่สั่งให้นอนคว่ำ ก่อนจะใส่กุญแจมือเพื่อควบคุมตัว
วันนี้ (21 พ.ค.2565) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภาค 7 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุจาก สภ.สามพราน ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายขณะเข้าจับกุม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2565 เวลาประมาณ 01.30 น.สถานที่เกิดเหตุหน้าหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ถ.บรมราชชนนี หมู่ 1 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภาค 7
โดยขณะเกิดเหตุร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ รอง สวป.สภ.สามพรานออกตรวจพื้นที่พร้อมพลขับ ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีการรวมตัวกลุ่มวัยรุ่นและขับขี่รถย้อนศรไปมาบริเวณหน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงได้เดินทางไป แต่ไม่พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้จอดรถเปิดสัญญาณไฟป้องกันเหตุ
ระหว่างนั้นมีชาย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาตาม ถ.บรมราชชนนี จึงได้เรียกตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จึงได้จับกุมตัว 1 ใน 3 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต่อมาพ่อของผู้ที่มีอาวุธปืน ได้แจ้งว่าลูกชายจองตนถูก ร.ต.อ.ไชยะพจน์ ทำร้ายร่างกายโดยการเตะและกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ
ต่อมา บก.ภ.จว.นครปฐม ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ พร้อม ส.ต.ต.พนาดร ช่างเขียน ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ปฎิบัติการป้องกันปราบปราม) สภ.สามพราน หยุดปฏิบัติหน้าที่ และไปประจำ ศปก.ภ.จว.นครปฐม โดยขาดจากการปฎิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งออกคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในขณะเดียวกัน สภ.สามพราน ติดตามตรวจสอบ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ เวลา 16.00 ตนได้เรียก รอง ผบช.ภาค 7 ที่รับผิดชอบพื้นที่ พร้อมทั้ง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, ผกก.สภ.สามพราน พร้อมตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาประชุมสรุปหาข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนได้ทราบและให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
ขอยืนยันว่า หากผลการสอบสวนข้อจริงพบว่า ตำรวจทั้ง 2 นายกระทำผิด จะดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นขอโทษต่อสังคมถึงกรณีดังกล่าวหากผู้ใต้บังคับบัญชากระทำความผิด
อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงว่าได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย