เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2565 นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาที่กำหนด ระบุว่า เบื้องต้นการจำหน่ายสลากงวดวันที่ 16 มิ.ย.2565 และวันที่ 1 ก.ค.2565 ยังคงยอดเปิดขายในจำนวนเท่าเดิมก่อน จากนั้นจะนำผลการจัดจำหน่ายในแต่ละงวดมาวิเคราะห์หาจำนวนที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ตัวแทนจำหน่ายขาดทุน
นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาการพัฒนาระบบด้วยการปรับเพิ่มฟีเจอร์กว่า 10 รายการ อาทิ ระบบการลดราคาของตัวแทนให้กับลูกค้า, การค้นหาตัวแทนเฉพาะกลุ่ม เช่น คนพิการ สมาคม รวมถึงฟีเจอร์เลขชุดที่จะค้นหาได้ง่ายขึ้น ตลอดจนเพิ่มทางเลือกการผูกบัญชีกับธนาคารอื่นนอกเหนือจากธนาคารกรุงไทย พร้อมเตรียมเปิดรับตัวเเทนเข้าร่วมโครงกสลากฯดิจิทัลเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้
นายชาญกฤช กล่าวว่า โครงการจำหน่ายสลากดิจิทัลเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำนักงานสลากฯ นำมาแก้ไขปัญหาสลากฯ เกินราคาในระยะสั้น โดยที่ประชาชนยังสามารถซื้อสลากใบละ 80 จากจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ที่กระจายอยู่ 362 จุดได้ และภายในเดือน ก.ค.นี้ จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุดทั่วประเทศ รวมถึงโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้าที่จะเพิ่มจำนวนจาก 130,000 ราย เป็น 200,000 ราย
สลากฯ ใบยังคงมีอยู่ ไม่ได้หายไป แต่การเปิดขายสลากดิจิทัลราคา 80 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาสลากฯ เกินราคา ทำให้ประชาชนสามารถซื้อสลากฯ ในราคา 80 บาทได้จริง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ซื้อ
นายชาญกฤช ยังเปิดเผยถึงมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะกลางถึงระยะยาวด้วยว่า ภายในปีนี้จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาจำหน่ายในรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ซึ่งจะคล้ายกับสลากฯ ปัจจุบัน และสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก ซึ่งจะคล้ายกันกับหวยใต้ดิน 2 ตัว 3 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเซ็นสัญญากับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน หากได้รับความเห็นชอบก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ประเภทของสลากฯ ที่จำหน่ายมีความหลากหลาย ไม่ใช่การมอมเมาประชาชนแต่เป็นการแก้ไขปัญหาสลากฯ เกินราคา ปัญหาหวยเถื่อน ซึ่งดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการจำกัดอายุของผู้ซื้อต้องไม่เกิน 20 ปี เพื่อป้องกันการเข้าถึงของเยาวชนการห้ามจำหน่ายในโรงเรียน