คลิปวิดีโอ โค่นต้นไม้ที่โพสต์ลงในแอปพลิเคชั่น TikTok เป็นหลักฐานที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เมืองพังงา เข้าจับกุม ผู้ต้องหา 5 คน ที่ร่วมกันตัดต้นตะเคียนสามพอน และไม้หวงห้ามจำนวนมาก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากะทะคว่ำ จ.พังงา
นางจรินทร์ เพชรเกลี้ยง อ้างมีกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่เกิดเหตุ โดยยืนยันว่าได้รับมรดกที่ดินจากพ่อ เป็น นส.2 จำนวน 24 ไร่ เมื่อปี 2505 กระทั่งลูกชายได้เล่น TikTok และทราบว่ามีคนต้องการซื้อขายไม้ขนาดใหญ่ จึงสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง จนเข้าใจว่าต้นไม้หวงห้ามสามารถขายและให้โค่นได้ จึงตัดสินใจติดต่อ และขายให้ในราคาเหมาจำนวน 80,000 บาท เป็นไม้อายุมากกว่า 60 ปี มีขนาดใหญ่ และไม่เข้าใจว่าถูกจับกุมร่วมกระทำผิดครั้งนี้ได้อย่างไร
ส่วนนายลุกมาน มะห่ำหมาด อายุ 31 ปี ชาว ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง กล่าวว่า ตนเองโพสต์คลิปลงติ๊กต๊อก เพื่อหาคนขายไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ จนมีคนติดต่อทางสื่อออนไลน์ และได้ตกลงราคาเหมาไม้ในราคา 80,000 บาท ในขณะตัดโค่นไม้ยอมรับว่าลงโพสต์ใน TikTok ลักษณะขายไม้ไปด้วยจนได้ลูกค้าที่รับซื้อไม้จากตนเองในราคาท่อนละ 100,000 บาท
การลงสื่อออนไลน์เป็นวิธีการขายของตนเอง ถือว่าเป็นสิทธิ์ เพราะไม้ที่โค่นในที่ดินกรรมสิทธิ์ มีการตกลงซื้อขายชัดเจน และเข้าใจว่าส่วนที่ดินนส.2ว่าสามารถค้าขายไม้ได้
เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางบันทึกการจับกุม ที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ อ.เมืองพังงา ต.ตากแดด อ.เมืองพังงา
นายพจน์ หรูวรนันท์ ปลัดจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบตามภาพที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากะทะคว่ำ ต.สองแพรก อ.เมืองพังงา โดยคิดมูลค่าเสียหายต้นไม้จำนวน 33 ท่อนต่อต้น รวมเป็นเงิน 1,974,390 บาท และตรวจยึดพื้นที่จำนวน 3 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา