วันนี้ (15 มิ.ย.2565) บริเวณท่าเรือนนทบุรี จ.นนทบุรี มีผู้โดยสารมาใช้บริการจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่มีการปรับค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาเพิ่มอีก 1 บาท จากอัตราเดิม ยกเว้นเรือปรับอากาศธงแดง
จากการสอบถามผู้โดยสารส่วนใหญ่ ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องการปรับค่าโดยสารอีก 1 บาท แต่ถือว่าไม่ได้กระทบกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากนัก และหากในอนาคต ราคารน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นก็ยังจำเป็นต้องใช้บริการเพราะไม่มีทางเลือกอื่น
ราคาค่าโดยสาร "เรือด่วนเจ้าพระยา"
เรือธงส้ม : นนทบุรี - วัดราชสิงขร
- จากราคา 15 บาท ปรับเป็นราคา 16 บาท.(ตลอดสาย)
เรือธงเหลือง : นนทบุรี - สาทร
- จากราคา 20 บาท ปรับเป็นราคา 21 บาท (ตลอดสาย)
เรือธงเขียว : ปากเกร็ด - สาทร
- ปากเกร็ด - นนทบุรี ราคา 13 บาท ปรับเป็นราคา 14 บาท
- นนทบุรี - สาทร ราคา 20 บาท ปรับเป็นราคา 21 บาท
- ปากเกร็ด - สาทร ราคา 32 บาท ปรับเป็น 33 บาท
เรือธงแดง : นนทบุรี - สาทร
- อัตราค่าโดยสารเรือปรับอากาศธงแดงยังคงอัตราเดิม คือ 30 บาท (ราคาปกติ 50 บาท)
นายอนุไชย์ ทองไถ่ผา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางระหว่างท่าเรือปากเกร็ด ถึงท่าเรือวัดราชสิงขร กล่าวว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงและราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องปรับอัตราค่าโดยสารขึ้น 1 บาทจากอัตราเดิม
นายอนุไชย์ กล่าวว่า การปรับราคาขึ้นอีก 1 บาท อาจไม่ได้สะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริง และที่ผ่านมาบริษัทได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร
สอดคล้องกับ นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทครอบครัวขนส่ง ที่ระบุว่า ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 1 บาทตามระยะทาง เพื่อไม่ให้กระทบกับภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน
ทั้งนี้หากราคาน้ำมันดีเซลยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจำเป็นจะต้องปรับค่าโดยสารเพิ่มอีก 1 บาท โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและถ้าราคาน้ำมันลดลงก็จะลดราคาค่าโดยสารตามต้นทุน