วันนี้ (16 มิ.ย. 2565) กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กระทำความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อรถเรือดับเพลิง หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดว่าร่วมกันกับ บริษัทสไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัดของประเทศออสเตรีย กำหนดราคาซื้อขายให้สูงเกินจริง
ล่าสุด ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ให้คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยานายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร นางกาญจนากร ไชยลาภ และนางกานดาภา มุ่งถิ่น ทายาทมรดกของนายสมัคร ต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กรุงเทพมหานคร
โดยศาลปกครองสูงสุดให้เหตุลผลว่า เมื่อนายสมัคร เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกรุงเทพมหานคร และเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อฯ จึงควรต้องรับผิดต่อกรุงเทพมหานคร รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 587 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นจำนวน 587 ล้านบาท นับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.2553 ถึง 10 เม.ย.2564 และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 3 ต่อปี หรืออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่กำหนดในพระราชภกฤษฎีกา ซึ่งออกตามความในมาตรา 7 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 60 วันนับแค่วันที่คดีถึงที่สุด
ทั้งนี้หากผู้ที่ถูกฟ้องคดีฟ้องบริษัทสไตเออร์ฯ ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศ ขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขาย เรียกทรพัย์คืนตามคดีหมายเลขดำที่ กค.155/2556 โดยศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม หรือคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ของ ICC มีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้คู่กรณีตกลงกันด้วยดี ทำให้ค่าความเสียหายลดลงเพียงใด ก็ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ต้องรับผิดชอบต่อผู้ฟ้องคดีเพียงไม่เกินทรัพย์มรดกของนายสมัครที่ตกทอดแก่ตน
อ่านข่าวเพิ่ม อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง 4 ขรก.คดีทุจริตซื้อรถดับเพลิง กทม. 6 พันล้าน
เหตุผลที่ต้องให้ร่วมชดใช้ร้อยละ 30 ของการจัดซื้อ
ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ทายาททั้ง 3 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีนายสมัคร ระบุว่า การที่นายสมัคร ในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการของกรุงเทพมหานครให้เป็นไปตามกฎหมายมาตรา 49(1) พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร 2528 และเป็นผู้มีอำนาจสั่งซื้อตามข้อ 5 ของข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องการพัสดุ 2538 ได้ทราบถึงข้อเท็จจริง และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดซื้อ
ตามที่พล.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เสนอเรื่องผ่านคุณหญิงณัฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานครขณะนั้น เพื่อให้พิจารณามาโดยตลอด แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบ หรือทักท้วงถึงการกระทำดังกล่าว และยังคงอนุมัติให้กรุงเทพมหานครจัดซื้อ การกระทำของ นายสมัคร จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และถือเป็นการกระทำละเมิดต่อกรุงเทพมหานครตาม มาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โดยเมื่อความเสียหายที่กรุงเทพมหานครได้รับ เกิดจากการจัดซื้อที่ไม่เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพ มหานครเรื่องการพัสดุ 2538 ทำให้ราคาที่ซื้อสูงเกินจริงเป็นเงินจำนวน 1,958,600,000 บาท และการจัดซื้อยังมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน
จึงสมควรกำหนดสัดส่วนความรับผิดชอบของนายสมัคร โดยเทียบเคียงแนวทางการกำหนดสัดส่วน ความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง ตามหนังสือกระทรวงการทางด่วนที่สุดที่กค.0406.2/ว.66ลงวันที่ 25 ก.ย.2550 ที่กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาขั้นสูง หรือผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อรับผิดกรณีไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือระเบียบด้านการจัดซื้อจัดจ้างเนื่องจากกำหนดราคาสูงกว่าความเป็นจริงโดยให้รับผิดในอัตราร้อยละ 30 ของมูลค่าความเสียหาย
เมื่อนายสมัคร เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกรุงเทพมหานคร และเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อ จึงสมควรต้องรับผิดต่อกรุงเทพฯในอัตราร้อยละ 30 ของความเสียหายจากเงินจำนวน 1,958,600,000บาทคิดเป็นเงินที่ต้องรับผิด 587,580,000 บาท
และเมื่อความรับผิดอันเกิดจากการกระทำละเมิดของนายสมัคร ต่อกรุงเทพมหานคร เป็นความรับผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินเป็นเงิน มิใช่ความรับผิด ซึ่งตามกฎหมาย หรือว่าโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของนายสมัคร ผู้ตาย ดังนั้นบุคคลทั้ง 3 ในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสมัคร จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 587,580,000บาท ให้แก่กรุงเทพมหานครโดยไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดให้แก่ตนทั้งนี้ตามมาตรา 1600 และมาตรา 1601 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทิ้งร้างเกือบ 10 ปี กทม.เตรียมทุ่มงบฯ ซ่อมรถ-เรือดับเพลิง คาดใช้ 180 ล้าน บ.